ชีวิตที่ถูกหล่อหลอมมาเป็นแบบใด ย่อมส่งผลต่ออนาคตในรูปแบบนั้น เหตุกับผลย่อมตรงกัน มันไม่สามารถผิดเพี้ยนจากสิ่งที่เกิดจากเหตุไปได้เลย เราจึงต้องหาหนทางให้พบว่าวันนี้ที่เราถูกหล่อหลอมมาไม่ว่าจะเป็นการถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร รวมไปถึงการเลือกคบเพื่อนว่าคบเพื่อนเช่นไร ก็สามารถนำมาเป็นข้อสังเกตได้.
เบ้าหลอมที่ดีมักจะมีแนวโน้มให้บุคคลนั้นเป็นคนที่ดีได้ เบ้าหลอมเปรียบเสมือนฐานของชีวิต หากฐานไม่มั่นคงก็ยากที่จะไปต่อได้อย่างยั่งยืน ชีวิตจึงจำเป็นจะต้องหาบุคคลต้นแบบหรือเราต้องนำตัวเองไปหล่อหลอมกับสิ่งที่จะนำชีวิตไปในทิศทางที่ถูกต้องที่สุดเท่าที่เป็นไปได้.
ไม่มีสิ่งใดเลยที่ปราศจากต้นแบบที่เราต้องถูกฟูมฟักมา เราจำเป็นจะต้องมีคนที่เลี้ยงดูเรา และเราจำเป็นจะต้องมีคนที่คอยแนะนำสั่งสอนเรา นี่คือความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมเราก็ต้องสดับตรับฟังด้วยเสมอ มิเช่นนั้นเราก็จะถือว่าเป็นคนที่ว่านอนสอนยาก แถมไม่มีใครสามารถจะหล่อหลอมให้เป็นอย่างใจได้เลย.
ปัญหาของชีวิตมักจะเกิดขึ้นจากการที่เราไม่รู้ว่าเราจะไปยังทิศทางใด เมื่อนั้นเราจะเริ่มเดินสุ่ม พอเราเดินสุ่มนานวันเข้าเราก็จะหลงไปในทิศทางที่ไม่ใช่มากยิ่งขึ้น พอไม่ใช่ไป ๆ มา ๆ เราก็จะรู้สึกไขว้เขวว่าทางใดกันแน่ที่เป็นทางที่เราควรหมุดหมายไป สังเกตผู้คนที่เกิดมาก่อนเราให้มากเข้าไว้ ประสบการณ์ทุกอย่างล้วนมีความหมายต่อชีวิตเราทั้งหมดทั้งสิ้น ให้เรียนรู้จักชีวิตของตัวเองให้มากเท่าที่มากได้ แล้วการหล่อหลอมจะสมบูรณ์.
การทำความดีเป็นส่วนหนึ่งของการหล่อหลอมให้ชีวิตมีความสุขอันยั่งยืน ถ้าปราศจากความดีแล้วไซร้ สรรพสิ่งย่อมมีทิศทางที่ดีไปได้ยาก มนุษย์ทุกคนจึงเป็นหัวหอกอันสำคัญของยุคสมัย วันนี้จึงเป็นวันที่กำหนดอนาคต และอนาคตเป็นที่มาจากวันนี้ ถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด หล่อหลอมจากครอบครัว เพื่อน แฟน และญาติพี่น้อง รวมไปถึงคนในสังคมเข้าด้วยกัน กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เมื่อนั้นเราจะพบเจอกับความสุขสมที่มิอาจจะวาดฝันเอาไว้ได้เลย.
จงเป็นคนที่หล่อหลอมตนเองให้ดียิ่งขึ้น หลังจากนั้นจงทำหน้าที่เป็นเบ้าหลอมให้กับชนรุ่นหลัง
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ