Description
มีคนมาปรึกษาว่า คือตอนนี้แอลอยู่บ้านแฟน แล้วบ้านแฟนก็อยู่กันหลายคนมีทั้ง พ่อ แม่ น้องแฟนอีก 2 คน แต่เรื่องมันเกิดขึ้นกับเรา เพราะน้องสะใภ้คนกลางของแฟนที่เข้ามาอยู่ในบ้านเหมือนกัน คือเข้ามาใหม่ ๆ ก็ไม่มีอะไร อยู่ได้พักนึงเราก็คุยกันปกติ แล้วก็สนิทกันอยู่ระดับหนึ่ง ครั้งแรกเขาทักแช็ตส่วนตัวมาว่าเราเรื่องงานบ้าน เพราะเขาคิดว่าแอลไม่ทำงานบ้าน ไม่ช่วย แต่แอลก็บอกว่าทำตอนที่คนอื่นไม่อยู่บ้าน หรือไม่ก็ตอนกลางคืนเวลาออกมาทำอะไรให้แฟนกิน เราก็จะล้างไว้เลย ตอนเช้าแม่จะได้ไม่ต้องล้าง แล้วในบ้านจะมีคนทำงานบ้านอยู่ไม่กี่คน ผู้หญิง 3 คน กับแฟนเราก็รวมเป็น 4 คน ตอนแรกก็สงสัยว่าอยู่กันเยอะแยะทำไมทำอยู่ไม่กี่คน จนเราก็ปล่อยวางไปเพราะมองว่าคงเป็นผู้ชายมั้งเลยไม่อะไร พอมาครั้งที่สอง ก็เรื่องเดิมอีกเรื่องงานบ้าน เช่น ล้างจาน กวาดถูบ้าน ซึ่งช่วงเปิดเทอมเราก็เรียนหนัก ทั้งในมหาลัย ทั้งออนไลน์ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเรียนออนไลน์เราจะเรียนให้เสร็จก่อน และค่อยออกมาล้างจานให้ คือจานมันค่อนข้างจะเยอะ แต่ทีนี้กว่าเราจะเรียนเสร็จ เขาก็มาล้างก่อนตลอด เราก็เลยทิ้งขยะแทนแต่ตอนทำก็คือไม่มีใครอยู่บ้าน สักพักก็จะสิงอยู่แต่ในห้อง คือใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องนอนแฟนเรา ไม่ค่อยไปสุงสิงกับใคร พอมาครั้งที่สาม แอลจะเลิกเรียนเที่ยง แล้วตอนเช้าจานจะเยอะมาก แอลก็กะจะกลับมาจากมหาลัยแล้วก็ล้างเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีให้ล้างอีก ส่วนตอนอื่นเราก็ช่วยล้างตลอด ไม่ได้ทิ้งไว้นาน พอเห็นก็จะเข้าไปล้างให้ถ้าเราเห็นว่ามันมีให้ล้างนะ ก็เลยอยากรู้ว่าแอลผิดตรงไหน
– เมื่อเรารู้ชัดว่าเราช่วยอย่างเต็มที่แล้ว ก็ให้คิดไปแบบนั้น แต่บางครั้งคนอื่นก็อาจจะตัดสินเราในรูปแบบของเขา
– ผู้คนส่วนใหญ่เวลาทำอะไรชอบคิดว่า คนอื่นไม่ทำ คนอื่นไม่ช่วย แต่ในความเป็นจริงแล้วใครทำใครก็ได้ไป
– วัฒนธรรมที่เกี่ยงกันทำ จะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ความขี้เกียจจะมาเป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตเราในระยะยาว
– ความสุขในชีวิตก็คือการเห็นผู้อื่นมีความสุข บางคนขี้เกรงใจ บางคนชอบให้คนช่วยเหลือ หรือบางคนก็ชอบให้คนพูดตรง ๆ บ้าง
– ทั้งนี้ ไม่ใช่ผิดหรือถูกในสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำ ถ้าหากว่าเราลองจัดตารางกันไปเลยว่า วันนี้ใครว่าง ถ้าไม่ว่างใครว่างแทนได้บ้าง เพื่อแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไปพร้อมกัน