การเชื่อมั่นในตนเองอย่างพอดี

การเชื่อมั่นในตนเองอย่างพอดี

♏ ราศีพิจิก สำหรับคนเกิดวันที่ 24 ตุลาคม – 23 พฤศจิกายน (และการผูกดวงลัคนาเกิด)

1. ภายนอก (Seven of Wands)

การรู้จักตัวเอง ย่อมนำมาซึ่งการต่อสู้ที่มีจุดหมาย คนรอบข้างคุณจะมองว่าคุณเป็นคนที่ต่อสู้กับปัญหาค่อนข้างมาก ซึ่งคุณก็เป็นคนที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่เสมอไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณเป็นคนที่ “สู้ไม่ถอยกับจุดยืนที่ตัวเองยืน” เสียมากกว่า ในขณะที่ทุกคนอาจจะตัดสินคุณว่าคุณนั้นมีความ มุมานะ บากบั่นต่อชีวิต หรือสู้ชีวิตนั่นเอง มันก็ทำให้คุณอาจจะดูติดลบในสายตาผู้คนส่วนมาก ทว่า การมองในแง่ดีในสิ่งที่คุณกำลังเผชิญก็มาไกลพอสมควรแล้วล่ะ ให้ต่อสู้อีกสักหน่อย ความสำเร็จมันก็จะเกิดขึ้นจริงเอง ณ ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรมาก.

เพียงแต่ให้คุณรู้ไว้ว่า “การสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่ง ก็จะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน” เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีรากใหญ่ การจะสร้างต้นไม้ให้รากนั้นใหญ่ ก็ย่อมต้องใช้เวลาสร้างฉันใด การขยันหมั่นเพียรในความดีก็ย่อมใช้เวลาสร้างฉันนั้น คุณจะต้องต่อสู้กับความไม่ดีที่เข้ามาย่างกรายกับคุณให้ได้ สร้างกำแพงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป.

2. ภายใน (Justice)

วิถีของนักธรรม ย่อมไม่หวั่นไหวต่อเสียงชมหรือเสียงนินทา สิ่งใดที่จะมารบกวนคุณตอนนี้ อาจจะมีแค่ภายในใจของคุณเองเท่านั้น ความสมดุลระหว่างจิตใจคุณค่อนข้างเสถียรพอสมควร คุณต้องพยายามสร้างเกราะป้องกัน ตระเตรียมไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ การสร้างความพอดีต่อสรรพสิ่งก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร แต่ก็อาจจะติดที่ว่าคุณอาจจะค่อนข้างเถรตรงไปสักนิด ให้พิจารณาดูดี ๆ ว่า ทุกอย่างย่อมมีเหตุปัจจัยของมัน คุณจะใช้ความเถรตรงกับทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ แต่เชื่อเถอะ ธรรมชาติก็ย่อมให้ผลอย่างยุติธรรมอยู่แล้วล่ะ ให้คุณเป็นเพียงผู้ดูเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปจัดการอะไรทั้งสิ้น.

มองแล้วพิจารณาอย่างแยบคาย ถึงเหตุและผลอย่างตรงไปตรงมา แล้วคุณจะเห็นกระแสของปัจจัยต่าง ๆ ที่หลอมรวมธาตุทั้งสี่ให้เกิดขึ้น บางทีความสมดุลก็เกิดจากขาวและดำรวมกัน ดั่งหยินและหยาง ในขาวมีดำในดำมีขาวฉะนั้น ความทุกข์อาจจะมาเพื่อให้คุณได้เข้าใจว่ามันมีเพื่อเป็นทางของความสุข และทั้งสองสิ่งนี้จะแยกออกจากกันไม่ได้เลย.

3. สิ่งที่ควรแก้ไข (King of Wands)

ยิ่งอยู่สูง ยิ่งต้องอ่อนน้อม ในเมื่อคุณอยากจะเป็นใหญ่เป็นโต แต่สิ่งที่คุณควรปรับปรุงคือ ‘ความหยิ่ง ยโส’ ธาตุไฟในตัวคุณมันมีอนุภาพที่รุนแรงพอสมควร สิ่งที่คุณห้ามลืมเด็ดขาด คือลืมว่าคุณเป็นแค่คนธรรมดาเดินดิน สิ่งที่คุณมีคือหัวโขนที่ประดับกายคุณเท่านั้น หาใช่สิ่งที่มันจะเป็นไปตลอดไม่ ถ้าคุณยังอินกับบทที่คุณแสดงมากเกินไป ก็จะเกิดความหลงอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะความหลงในความเก่ง ความดี ความดัง จะนำมาซึ่งภัยพิบัติอันร้ายแรง.

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต การที่คุณจะอยู่บนนั้นได้นานที่สุดคือการ ‘อ่อนน้อมถ่อมตน’ อย่าคิดแสดงอัตตาตัวตนเด็ดขาด เพราะอัตตานั้นจะฉุดดึงรั้งคุณให้ลงมาจากจุดสูงสุดได้โดยง่าย ความมั่นใจควรมีพอสมควร มีมากไปก็เต็มไปด้วยอัตตา แต่ถ้ามีความมั่นใจน้อยไปก็จะหาจุดยืนไม่เจอ บางทีจุดที่ยืนก็เพียงรู้ว่าแค่ยืนให้ได้ก็พอแล้ว วันหนึ่งเมื่อฟ้าฝนสงบคุณก็ต้องเดินทางต่อไป ไม่จำเป็นต้องมีจุดยืนแล้วล่ะ ละทิ้งจุดยืนเพื่อเดินทางไกลต่อไป เพราะนี่เป็นเพียงแค่ด่านแรกเท่านั้น.

4. สิ่งที่ควรพัฒนา (Knight of Pentacles)

ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ปราสาทมิอาจสร้างได้ชั่วอึดใจเดียวฉันใด ความสำเร็จมิอาจสร้างได้ภายในวันเดียวฉันนั้น” การเดินทางไกลย่อมมีอุปสรรคมากมายอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ‘ความเชื่อมั่น’ คุณมีสิ่งนี้ในตัวอยู่แล้วและคุณมีจุดยืนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ความหนักแน่นในสิ่งที่เชื่อ” คุณจะต้องเชื่อในการกระทำของคุณ ในเมื่อการกระทำเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคต คุณก็จะต้องเป็นคนมั่นคงในเหตุ และผลอย่างแน่วแน่จริง ๆ ไม่เช่นนั้นการเดินทางไกลย่อมมีอุปสรรคในสักวันหนึ่ง.

คุณต้องพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นใจในตัวเอง ว่าสิ่งที่เราเดินถูกต้องแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีอะไรบ่งบอกได้ว่า จะออกดอกออกผลวันไหนเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าผลคือทุกการเดินทางย่อมมีจุดหมายปลายทางอยู่ในจินตนาการอยู่แล้ว เปรียบเสมือนจิตที่เดินทางอย่างรวดเร็วไปยังสถานที่นั้น ๆ โดยเพียงแค่นึกคิดเท่านั้น คุณได้มีความสำเร็จอยู่ในความคิดแล้วล่ะ เพียงแต่มันต้องใช้เวลาในการกระทำเท่านั้นเอง.

5. บทสรุป (Temperance)

ภาวะที่ยากจะเข้าถึง คือภาวะของความสงบนิ่ง คุณจะต้องตระหนักรู้ว่า การฟังเสียงของหัวใจเป็นสิ่งที่พึงกระทำ การเปลี่ยนไปของอารมณ์แต่ละขณะเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้ และการที่คุณจะตกผลึกกับปัญหาก็ต่อเมื่อคุณต้อง “เล่นแร่แปรธาตุทุกปัญหา” ให้ได้หลากหลายแง่มุมมากที่สุด ทุกอย่างคือความสมดุล และความสมดุลนี่แหละจะเป็นหนทางไปสู่ความสุขในชีวิต.

จิตใจเรามักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ เพียงแค่รู้เท่าทันมัน ไม่ให้อารมณ์ขุ่นมัวมาบังคับความคิด สติปัญญาของคุณได้ คุณจะต้องรู้จักการปรับตัวให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ มันจะไม่มีวันไหนเลยที่คุณจะไม่จำเป็นต้องปรับตัว เพราะธรรมชาติย่อมหมุนเวียนไปอยู่แล้ว เรามิอาจบอกธรรมชาติให้เป็นได้ดังใจ แต่ก็มีเพียงแค่ตัวปัญญารู้ว่า “เราควรทำสิ่งใดที่สุดในตอนนี้” คำใบ้จะมาอยู่ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ความทุกข์ ความสุข ในหลักของความจริงแล้วไม่มีอะไรคงอยู่ได้ถาวร ความรู้สึกแค่รู้สึก เป็นผู้ดูเท่านั้นเอง.