แสงใดเล่าจะสว่างไสวเท่าแสงแห่งความดี แสงใดเล่าจะมีความสลักสำคัญเท่าแสงในใจ คำถามมากมายที่เรามักจะถามกันอยู่ในใจ ก็มักจะเป็นอะไรที่ไม่ต่างกับแสงในใจสักเท่าไร เหมือนกับเราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทุกคนก็ล้วนแต่ต้องเสาะแสวงหาแสงในใจกันทั้งนั้น หากไม่มีแสงในใจแล้วไซร้ ความดีก็มิอาจจะดำรงอยู่ได้ แม้กระทั่งจิตใจเราก็คงจะบอบช้ำ การตามหาเชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง แล้วชีวิตก็มาบอกกับเราว่า แสงในใจนี่แหละเป็นประทีปที่จะทำให้จิตวิญญาณลุกโชนขึ้นอีกครั้ง.
โลกนี้มีแสงไฟจากดวงอาทิตย์สาดส่องมายังฟากฟ้า จะมีแดดก็แค่ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นพระอาทิตย์ก็ได้เวลาหลับใหล เมื่อไรก็ตามที่เราต้องการแสงเราก็จงออกจากบ้านในยามรุ่ง หรือเมื่อไรก็ตามที่เราไม่ต้องการแสงเราก็จงออกจากบ้านในยามวิกาล เมื่อชีวิตได้มอบหนทางให้เราเลือกเดิน เราก็จงเลือกเดิน แต่ถ้าไม่มีทางให้เลือกเดิน เราก็แค่หยุดเดิน แต่คำว่าแสงในใจ หาเป็นเช่นนั้นไม่ หากไม่มีแสงในใจ เราจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา.
การจะได้แสงในใจนั้น คุณเป็นคนเดียวที่จำเป็นต้องจุดแสงนี้ขึ้นมาให้ได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้จุดกันง่าย ๆ ราวกับว่าเดินเข้าไปถือตะเกียงแล้วจุดไฟที่จิตใจ แต่มันคือการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงแรงผลักดันในชีวิตให้เราสามารถยืนหยัดอยู่บนสังเวียนแห่งโลกนี้ได้ เพียงแค่แสงในใจเกิดขึ้นมาเพียงครั้งเดียว ก็เสมือนมีสิ่งใดลุกโชนขึ้นจากก้นบึ้งของจิตใจ หลังจากนั้นเราจะค้นพบว่า บางสิ่งตามธรรมชาติกำลังสื่อสารกับเราอยู่ ไม่ต้องไปคิดว่ามันคือสิ่งแปลกปลอม ก็เพราะหากเรามีสติเพียงพอ เราก็จะจับสัมผัสนี้ได้.
สัญชาตญาณคือตัวชี้นำเราให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น มันคือสิ่งแรกก่อนจะไปถึงแสงในใจ ความคิดในแต่ละวันจะไม่สามารถให้แสงในใจเกิดขึ้นมาได้เลย แต่จงใช้สัญชาตญาณนำทางคุณไป ให้คิดซะว่าการเดินทางไกลก็จำเป็นต้องมีไกด์นำทาง และอธิบายสิ่งที่เรากำลังจะเจอในแต่ละสถานที่ ทว่า จิตวิญญาณก็จงให้ไกด์นำพาไปเฉกเช่นเดียวกัน.
ชีวิตคือการเดินทาง แสงไฟคือพลังงาน หากต้องเดินทางเมื่อใด ก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาแสงในใจ ถ้าวันนี้ยังคิดว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพามัน ก็อย่าเพิกเฉยไปเสียทั้งหมด การสังเกตการณ์ว่าสิ่งใดจะมาเป็นพลังได้มากเพียงนี้ก็หามีไม่ จุดกำเนิดอยู่ที่จิตวิญญาณ เชื่อมต่อกับความเป็นจริงให้ได้ นี่คือแสงในใจเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตท่ามกลางมรสุม.
แสงในใจจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ เราค้นพบทางออกของชีวิต
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ