ใครเล่าในโลกใบนี้ที่จะไม่ชอบความสมบูรณ์แบบ แต่ใครเล่าจะเป็นผู้รู้แจ้งว่าความสมบูรณ์แบบจริง ๆ นั้น หาเป็นได้จริงไม่ หากบุคคลใดวิ่งไล่ตามหาความสมบูรณ์แบบ คนเหล่านั้นจักตายก่อนที่จะสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงได้ เหมือนกับว่า ชีวิตไม่ได้หยิบยื่นโอกาสมาให้เราดีพร้อมไปหมดซะทุกเรื่อง และแน่นอนว่าชีวิตก็ไม่ได้ใจร้ายกับเราจนที่เราไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างเดียว.
การจะวัดค่าของความสมบูรณ์แบบได้นั้น จะต้องเริ่มจากการรู้ก่อนว่า เราไม่สมบูรณ์แบบแล้วการตามล่าความสมบูรณ์แบบก็เป็นเพียงแค่อุบายอันชาญฉลาดของสมองก็เท่านั้นเอง เพียงเพื่อให้เราได้มีพัฒนาการไปสู่จุดสูงสุดยิ่ง ๆ ขึ้นไปของศักยภาพมนุษย์ที่ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุด โดยมีการวางแผน ความเชื่อ และปรัชญาในการดำเนินชีวิต ซึ่งมนุษย์นั้นจะแตกต่างกับสัตว์ตรงที่เราไม่ได้ใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิตทั้งหมด แต่เรารวมความศรัทธาในบางสิ่งเข้าไปด้วย.
มีประโยคนึงได้กล่าวไว้ว่า “จงอย่าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ” แล้วก็มีผู้คนมากมายกำลังโต้แย้งด้วยวาทะอันคมคายว่า “ใครเล่าจักไม่ชอบความสมบูรณ์แบบ แล้วเราจะใช้ชีวิตไปทำไมล่ะ หากว่าเราไม่มีชีวิตอยู่เพื่อความสมบูรณ์พร้อม” จริง ๆ แล้วชีวิตไม่ใช่เกิดมาเพื่อความสมบูรณ์ แต่เกิดมาเพื่อความก้าวหน้าเสียมากกว่า.
ก็ในเมื่อความสมบูรณ์ไม่มีอยู่จริง แต่ความก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพย่อมสามารถเป็นไปได้ เปรียบกับการที่เราจะสร้างสิ่งใดเราก็ย่อมทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจลงไปเพื่อสร้างสิ่งนั้น ทว่า สิ่งนั้นนานวันเข้าก็ไม่สมบูรณ์แบบสักที มันอาจจะเป็นเรื่องของอารมณ์ที่เราติดกับดักความสมบูรณ์แบบก็ได้นะ เพราะไม่มีสิ่งใดในโลกดีพร้อมทั้งหมด มีแต่ความบิดเบี้ยวนี่แหละ คือศิลปะชั้นดีของผู้ที่มองเห็น.
แล้วศิลปะของการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบ คือการพัฒนาชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม การค่อย ๆ เดินทีละก้าว ก็ไม่ได้หมายความว่าเราใช้ชีวิตอย่างคนเกียจคร้าน แต่เป็นการพินิจพิจารณาในชีวิตเสียมากกว่าว่า วันนี้มีอะไรที่เราจะสามารถทำได้บ้าง เราอาจจะไม่ต้องดีพร้อม แค่ค่อย ๆ เดิน ค่อย ๆ ก้าวไป สักวันเราก็จะพบว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปกว่า ณ วันนี้ที่เราเป็นอยู่ จงค้นหาตัวเองให้เจอ แล้วเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปด้วยการให้สิ่งที่ดีคืนสังคมไป สิ่งนั้นแลจะเป็นการสร้างความสมบูรณ์แบบได้อย่างประเสริฐ.
ความไม่สมบูรณ์พร้อม คือความจริงที่เราต้องน้อมรับมัน การหยุดไล่ล่าความสมบูรณ์นั่นแล จะเป็นความสมบูรณ์อันแท้จริง
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ