คุณครูของข้าพเจ้า

วันครูแห่งชาติ 2019

เนื่องจากในวันนี้เป็นวันครูแห่งชาติ

เลยมีความรู้สึกอยากเขียนเรื่องราวช่วงที่ยังเรียนอยู่และมันอาจจะเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังต่อไป.

1. สำหรับผมแล้ว ครูเปรียบเสมือนคนที่คอยสอน คอยแนะนำสิ่งที่ดี บ้างก็มีอารมณ์โกรธ บ้างก็มีอารมณ์ห่วงใยกันก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่คนอื่น ๆ เราจะได้เรียนรู้ก็ต่อเมื่อเรา ‘เปิดใจ’ ให้ครูเข้ามาในจิตใจเรา ก็มีทั้งครูที่มาสอนในเรื่องราวที่ดีบ้าง และสอนในเรื่องราวที่ไม่ดีบ้างผ่านคำพูด การกระทำของบุคคลนั้น ซึ่งบางทีมันก็ห้ามไม่ได้ว่าจะเลือกครูแบบไหนเข้ามาในชีวิตของเรา สิ่งที่เราทำได้ก็แค่เพียง “มีสติน้อมรับสิ่งต่าง ๆ อย่างที่มันเป็นไป” บางครั้งเวลาที่เรามีปัญหาก็สามารถที่จะปรึกษาครูได้ บางครั้งครูมีปัญหาก็มาเล่าสู่กันฟังให้กับนักเรียน เพื่อที่จะเป็นคติสอนใจต่อไปในภายภาคหน้าอย่างแท้จริง.

2. สิ่งที่ครูสอนทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่เป็นสิ่งที่นักเรียนควรพินิจพิจารณาอย่างยิ่งยวด เพราะการสอนอาจจะเป็นการที่ครูแสดงให้ดู มันอาจจะเป็นสิ่งผิดแต่ครูก็ไม่ได้บอกเราทั้งหมด นักเรียนจึงต้องแสวงหาสิ่งที่ถูกต้องด้วยตัวเองด้วยกึ่งหนึ่ง ถ้าขาดการวิเคราะห์แล้วก็ยากที่จะเข้าใจว่า “ครูนั้นสอนอะไรเรากันแน่” การที่จะรู้ว่าครูเป็นส่วนสำคัญของชีวิต ก็ต่อเมื่อนักเรียนทุกคน “นำคำสอนของครูไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” เช่น การเติบโตเป็นบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความพยายาม ความดี และความมีวินัย สิ่งต่าง ๆ จะหล่อหลอมให้เราเป็นคนที่ไม่เป็นคนยอมแพ้ต่ออุปสรรคอย่างง่ายดาย.

3. คำว่า ‘ผิดเป็นครู’ เป็นสิ่งที่ใครก็เคยได้ผ่านมาหมดแล้ว คำนี้จริงแท้แน่นอน เพราะไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดทุกคนก็ล้วนแต่ผิดพลาดกันมาทั้งนั้น แม้กระทั่งครูก็เคยผิดพลาดจึงสามารถมาสอนนักเรียนให้รู้และระวังในการกระทำให้มากขึ้นในอนาคตต่อไป บางคนก็อาจจะเคยคิดไม่ดีกับครู บางคนก็อาจจะเคยด่าว่าครูทั้งต่อหน้า และลับหลัง มันก็เป็นเรื่องปกติกันทุกคน แต่เชื่อเถอะการคิดไม่ดี และด่าว่าไม่ช่วยอะไร เพราะไม่มีการกระทำอะไรจะสำคัญไปกว่าคำว่า “สั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดี” สิ่งที่ครูลงโทษก็เพื่อตัวนักเรียนเอง สิ่งที่ครูบอกก็เพื่อให้เป็นคนในสังคมที่ดียิ่งขึ้น.

4. หน้าที่ของนักเรียนที่พึงกระทำได้ ก็แค่เพียงกลั่นกรองสิ่งที่ไม่ดีออกไปไม่ต้องนำมาใช้ และนำสิ่งที่ดีนั้นมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตของเราเอง สิ่งที่ไม่สามารถทำได้คือเลือกให้ครูเป็นดังใจของเรา เราก็แค่ปรับตัวให้เข้ากับครูเพราะในอนาคตเราจะต้องปรับตัวยิ่งกว่าตอนเป็นนักเรียนมากมายนัก การเรียนรู้แอบแฝงอยู่ในทุกอณูขณะที่อยู่ในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเรียนตรงเวลา การปรึกษาครูประจำชั้น การคุยกับเพื่อน หรือการจัดระเบียบของโต๊ะที่เรานั่งเรียน และนี่คือความหมายของครูที่แท้จริง.

5. การเรียนรู้จะไม่มีวันจบสิ้นตราบใดที่เรายังคงเป็น “นักเรียนของชีวิต” ตราบนั้นก็ยังมีครูอยู่ในทุกหนแห่ง สิ่งที่ทุกคนพึงกระทำคือรู้จัก ‘ขอบคุณ’ ครู ไม่ว่าจะเป็นครูในชีวิตจริง ครูคืออุปสรรค ครูคือความสุข หรือครูคือกัลยาณมิตร ประสบการณ์ต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตเราดียิ่งขึ้นไปเพื่อเรียนรู้ว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดไม่ใช่เจอครูดีที่สุด แต่เป็นตัวนักเรียนเองที่สามารถปรับใช้ ดัดแปลงให้เข้ากับชีวิตได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง จงกระหายในการศึกษาเล่าเรียน ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ใช่การเรียนรู้สักวินาทีเดียว และจงน้อมรับสิ่งต่างๆอย่างที่มันกำลังจะสอนเราเพราะทุกอย่างคือการเรียนรู้.