♒ ราศีกุมภ์ สำหรับคนเกิดวันที่ 24 มกราคม – 23 กุมภาพันธ์ (และการผูกดวงลัคนาเกิด)
1. ภายนอก (Eight of Cups)
การไม่เผชิญหน้าต่ออุปสรรคซึ่ง ๆ หน้า ก็ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนหนีปัญหา การตัดสินคนที่ภายนอกอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไรนัก แต่ก็สามารถเป็นแนวทางแก้ไขได้ว่าคนอื่นมีมุมมองเช่นไรต่อตนเอง คนรอบข้างมองคุณว่าเป็นคน ‘หนีปัญหา’ แถมเป็นคนที่ค่อนข้างหวาดกลัวอุปสรรคได้ง่าย เหมือนว่าคุณค่อนข้างเก็บตัวสักนิดนึง ไม่ค่อยพบเจอผู้คน หรือว่าอาจจะปลีกวิเวก เพราะเห็นประโยชน์ในการค้นหาสัจธรรมในช่วงนี้ ก็ไม่ได้ผิดแผกจากคนทั่วไปนักหรอก เพราะบางทีช่วงชีวิตคนเราก็ต้องมีการอยู่คนเดียวบ้าง อยู่กับผู้คนบ้างเป็นธรรมดา แต่คุณอาจจะอยู่คนเดียวบ่อยไปสักนิดนึง.
ภารกิจหลักคุณคือ “ตามหาอัญมณีที่ขาดหายไป” เหมือนชื่อตอนของหนังสือผจญภัย ที่มีจุดเด่นตรงที่ว่าคุณอาจจะเคยทำมันหล่นหายไป คุณไม่พอใจชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วจึงออกตามหาสิ่งที่มีคุณค่าอันแท้จริงของชีวิต การเดินทางของคุณนั้นไม่ธรรมดา เพราะคุณเป็นคนเชื่อมั่นตัวเองสูงพอสมควร ซึ่งอาจจะยากที่คนอื่นจะมองคุณในแง่ดี ก็ไม่เป็นไรหรอก เดินทางที่คิดว่าดีแล้วเถิด.
2. ภายใน (King of Wands)
ความเป็นผู้นำที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการศึกษาเล่าเรียนมาก แต่เป็นการที่คุณจะต้อง ‘กล้า’ ในสิ่งที่คนอื่นนั้น ‘กลัว’ คุณเป็นผู้นำโดยจิตวิญญาณ คุณจำเป็นจะต้องตระหนักรู้คุณค่าของตัวเอง ว่าคุณต้องเดินทางไหน แล้วอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องพบพานไปยังจุดหมายนั้น ความเชื่ออย่างพอดีย่อมเป็นสิ่งที่ดี ความมุ่งมั่นอย่างพอดีย่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การที่คุณมีความเชื่อมั่นในตนเองจะทำให้คุณสามารถผ่านบทเรียนยากในชีวิตไปได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก.
เพียงแต่การที่คุณจะเป็นผู้นำ คุณจะต้องฝึกฝนตนเองอย่างหนักหน่วงตาม คุณจะไม่สามารถกลับไปเป็นผู้ตามได้อีกเด็ดขาด เพราะโลกนี้ย่อมขาดคนที่เป็นผู้นำ คุณจะต้องมีจุดยืนที่มั่นคง และแน่วแน่ต่อหลักการความคิดที่ไตร่ตรองพิจารณาไว้ดีแล้วไซร้ คุณจะต้องทำตามกฎระเบียบที่คุณสร้างขึ้นมา เพื่อสอดคล้องกับเจตจำนงของคุณที่ตรวจทานอย่างดีแล้วว่า “การจะสำเร็จไม่ได้ยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการไม่ยึดติดความสำเร็จนั้น”.
3. สิ่งที่ควรแก้ไข (Two of Swords)
สิ่งที่ฉุดรั้งคุณไม่ให้ก้าวต่อไป คือการกลัวการตัดสินใจ ทุกครั้งที่คุณทำสิ่งใดลงไปขอให้ยอมรับไปว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้กระทำลงไปแล้ว เราทำดีที่สุด ณ เวลานั้นจริง ๆ” มันจะทำให้คุณตัดสินใจก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดพัก ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ล้วนแต่จะเกิดจากสติปัญญา ณ ขณะนั้นจริง ๆ การใช้สมอง และจิตใจอย่างสมดุลเป็นสิ่งที่ยาก แต่เชื่อเถอะว่าคุณควรจะแก้ไข การที่ไม่สามารถจัดการกับเหตุผลในตัวเองได้.
คุณเป็นนักสมดุล ชอบความพอดีไปในทุกเรื่อง แต่ความจริงที่ว่า “มนุษย์นี้มีมากบ้างน้อยบ้างเป็นธรรมดา” คุณจะหาคนที่สมดุลได้จากที่ไหน ไม่มีใครตอบได้เพราะแม้แต่ตัวคุณเองยังไม่สมดุลเลย การฝึกตนอย่างยอดเยี่ยมไม่ได้เกิดจากการทรมานตนเอง แต่เป็นการจัดการกับความคิด และความรู้สึกอย่างสมมาตรกัน ในเมื่อคุณต้องการความประณีตของการดำเนินชีวิต คุณจงตระหนักรู้ว่า “ถึงแม้เราจะคิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพียงใด ก็ย่อมมีความผิดพลาดเป็นธรรมดา”.
4. สิ่งที่ควรพัฒนา (Page of Cups)
เสียงเรียกของสรรพสิ่ง ย่อมเกิดจากการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม คุณจะได้เข้าใจความรู้สึกที่ธรรมชาติบอกคุณมากขึ้นในทุกวัน การที่คุณมีความเป็นเด็ก และกระหายที่จะอยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก มันเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณจะพัฒนาศักยภาพทางด้าน ‘อารมณ์ที่สมดุล’ คุณจะต้องพร้อม และตื่นตัวที่จะรับบทเรียนใหม่เข้ามาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความขุ่นมัวทางอารมณ์ ก็จำเป็นต้องจัดการโดยใช้สายตาของความเป็นเด็กเสมอ มองปัญหาอย่างสงสัย และตั้งคำถามอย่างสดใสเบิกบานกับทุกสิ่งทุกอย่าง.
คุณมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวเยอะอยู่แล้ว ก็เหลือแต่อย่าให้ความเป็นเด็ก หรือสิ่งที่ดีของความเป็นเด็กจางหายไปตามกาลเวลาเลย ทุกคนควรมีมุมเด็กน้อยบ้าง ซึ่งคุณก็ควรที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อที่จะต่อยอดวิชาความรู้ที่คุณมีให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น การกระหายในความรู้จะมีอยู่ในตัวเด็กทุกคน การไม่กลัวปัญหา การไม่ท้อแท้อย่างง่ายดาย ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องดำรงรักษาไว้ ดั่งคำกล่าวที่ว่า “สิ่งที่เด็กแตกต่างกับผู้ใหญ่ คือเด็กจะกล้าฝัน แต่ผู้ใหญ่จะกลัวฝัน”.
5. บทสรุป (Three of Pentacles)
ความสำเร็จมิอาจเกิดได้ ถ้าปราศจากปัจจัยสนับสนุน คุณจำเป็นจะต้องตระหนักรู้ในสิ่งต่าง ๆ ว่า คุณไม่สามารถเดินคนเดียวลำพังแล้วจะไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้ คุณจะต้องมีคนคอยช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น เพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ หรือแฟน ทุกคนล้วนเป็นหมากที่ผลักดันคุณไปเพื่อมีพลังต่อยอดไปได้ไกลที่สุด การที่คุณบอกกับตัวเองว่า “เราทำได้และไม่จำเป็นจะต้องพึ่งใคร” นั่นจะเป็นตัวฉุดคุณลงมาอย่างแน่นอน.
คุณจำเป็นจะต้องฝึกพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ คำนี้ศักดิ์สิทธิ์ต่อเมื่อผู้พูดเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าขอบคุณไปเพื่อใคร ขอบคุณไปเพื่ออะไร การขอบคุณไม่ใช่ขอบคุณคนอื่นแต่มีนัยแฝงที่ว่า “คุณขอบคุณที่เรามาถึงจุดนี้ได้ มิอาจใช่ความเก่ง ความดี หรืออะไร เพียงแต่เพราะเหตุปัจจัยหนุนนำพาให้เรามาถึงจุดนี้ได้” การเรียนรู้ที่แท้จริงจะเกิดจากการปรับตัวเข้าหากัน กลั่นมาเป็นความเข้าใจ สู่กระบวนการรู้แจ้งว่า “ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะไม่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน”.