ดูดวงบ่อย ๆ ได้ไหม

ดูดวงบ่อยๆได้ไหม

ปุจฉา

เนื่องจากมีคนเข้ามาถามค่อนข้างเยอะว่าดูดวงได้บ่อยแค่ไหน และดูบ่อยครั้งจะมีผลกระทบต่อดวงในอนาคตไหม หรือว่ามีกฎข้อห้ามอะไรหรือเปล่า ในการดูดวงแต่ละศาสตร์มีข้อจำกัดให้ดูกี่ครั้งต่อเดือน.

วิสัชนา

จริง ๆ แล้วสามารถดูดวงได้เรื่อย ๆ จนกว่าเราจะพอใจเลย เพราะว่าต่อให้ดูดวงยังไงดวงเราก็ไม่เปลี่ยนแน่นอน การดูดวง (พื้นดวง) ไม่สามารถเปลี่ยนได้ หลายคนที่อยากจะมาดูดวงเพื่อเพียงแค่อยากรู้อนาคต แต่ไม่ได้อยากรู้ว่าการดูดวงมันคือการดูอดีตที่เคยกระทำมาเท่านั้นเอง และในความเป็นจริงคือเพียงแค่รู้ว่า ‘พลัง’ ของตัวเองและ ‘ศักยภาพ’ ของตัวเองมีขีดจำกัดแค่ไหน เราสามารถนำพลังต่าง ๆ มาใช้ได้อย่างถูกทางด้วยวิธีไหนบ้างแค่นั้นเอง มีสองสิ่งที่จะเสียคือ เสียเวลาและเสียเงินเพิ่มขึ้น เพราะไม่ว่าจะดูมากี่ศาสตร์ก็ตาม ผลก็จะออกมาในทิศทางเดียวกันเสมอไม่สามารถเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งในการดูดวง.

แต่ในอีกนัยนึงมีหนทางที่จะทำให้ดวง (ในอนาคต) เปลี่ยนได้ คือต้องเริ่มต้นจากการปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ก่อนมาเป็นอันดับแรก เพราะว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เจอได้ (กรรมในอดีต) แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิด หรือการกระทำต่อสิ่งที่เราเจอได้ (กรรมที่จะส่งผลต่ออนาคต).

บางคนอาจจะคิดว่าความทุกข์นะ มันจะปรับยังไงให้เป็นความสุขล่ะ ก็ลองคิดว่าถ้าเรายังทุกข์เรื่องเดิม ๆ ชีวิตเราก็คงย่ำอยู่กับที่ไม่ได้เดินทางไปไหน แทนที่เราจะเข้าใจและปรับใช้มาเป็นพลัง กลั่นความทุกข์ให้กลายเป็น ‘ประสบการณ์’ ที่ไม่ได้หาซื้อได้ตามเซเว่น มันคือหนทางที่เราทุกคนจะต้องเดินไป ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง.

ทั้งนี้การดูดวงจะสัมฤทธิ์ผลได้ ก็ไม่ได้มาจากการดูดวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเดือนละครั้งเป็นอย่างต่ำ หรือว่าการที่เราต้องกลัวเคราะห์เข้า กลัวกรรมจะมาบังเกิดกับเรา แต่ต้องเปลี่ยนเป็นดูดวงเพื่อรู้และระวังภัยที่เข้ามา ว่าภัยนี้หนักเบาแค่ไหนอย่างไร หนทางแก้ไขนั้นพอจะเป็นไปในทางไหนได้บ้าง ตั้งคำถามก่อนที่จะมาดูดวงเสมอ เพื่อที่จะไม่เสียเงินโดยใช่เหตุ รวมถึงเสียสุขภาพจิตด้วย.

การใช้วิจารณญาณกับหมอดูก็จำเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน หลายคนที่มาดูแล้วอาจจะหูเบาเชื่อหมอดูซะหมดเปลือก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเชื่อหมอดูทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน การที่มาดูดวงก็เหมือนมาปรึกษาหมอคนนึงก็เท่านั้น มีบางครั้งที่อาจจะวินิจฉัยโรคผิดไป หรืออาจจะบอกทางแก้ไขที่ต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะเข้าใจความหมายที่หมอนั้นสื่อออกไป คนที่ไปพบหมอก็จึงต้องมีความคิดกลั่นกรองด้วยตัวของตัวเองระดับหนึ่ง เพื่อกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต.