ถ้าจุดเริ่มต้นคือการเคลื่อนที่ ความมุ่งมั่นคงจะเป็นแรงที่ทำให้วัตถุนั้นเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงและรุดหน้าไปได้ไกลมากเท่าที่มันควรจะเป็นไป หากชีวิตเป็นเหมือนเครื่องยนต์ เราควรที่จะต้องเรียนรู้ว่าวันนี้เราควรทำอะไรมากที่สุด ความมุ่งมั่นมันจึงเป็นตัวบ่งชี้แค่ในเรื่องของพลังงาน เพราะถ้าเครื่องยนต์นี้ขับเคลื่อนสิ่งที่ดี ชีวิตก็จะดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ถ้ามันขับเคลื่อนในสิ่งที่ไม่ดีแล้วไซร้ ทุกสิ่งอย่างคงไม่ได้น่ายินดีอย่างสิ่งที่มันควรจะเป็นไป.
ความมุ่งมั่นเปรียบเสมือนเชื้อเพลิง
การจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้พลัง หากเรามีพลังในการทำความดี ก็จงมีความมุ่งมั่นในการทำความดีอย่างต่อเนื่อง การลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดีก็ควรที่จะเป็นความมุ่งมั่นสืบไปด้วยเช่นกัน การเพิ่มขึ้นของความมุ่งมั่นจะแปรผันตรงกันกับความศรัทธาที่เราต้องการไปยังหมุดหมายตรงหน้า หากเราต้องการมีความสุขในชีวิต เราก็จงเป็นคนที่มุ่งมาดปรารถนาต่อความสำเร็จนั้น ๆ คิดคำนึงในแง่มุมที่ว่า เราต้องการอะไรจากสิ่งที่เรากระทำลงไป ทว่า มันเป็นสิ่งที่ดีก็จงทำต่อไป แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีก็จงละทิ้งเสีย แล้วเปลี่ยนหัวเรือ บ่ายหน้าไปยังทิศทางที่ชีวิตจะดีขึ้นในระยะยาวเสียดีกว่า.
ความสุขหรือความทุกข์ อาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป ถ้าหากเรามองไปในแง่มุมที่ว่า เราสามารถรับรู้ถึงความสุขในชีวิตประจำวันได้มากน้อยเพียงใด เชื้อเพลิงก็คงเป็นตัวขับเคลื่อนให้โลกใบนี้รุดหน้าต่อไปได้ แต่มันจะไปสลักสำคัญอะไรเล่า เพียงเพื่อมนุษย์ใช้ความมุ่งมั่นไปในทิศทางที่ผิดกันอยู่ร่ำไป แต่แล้วการเปลี่ยนแปลงย่อมบังเกิดขึ้น เพราะเรานั้นเรียนรู้ที่จะตระหนักรู้และตกผลึกว่า วันนี้เราต้องการสิ่งใดในชีวิตกันแน่ เราจะมีความมุ่งมั่นกันไปทำไม ก็ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปอย่างสิ่งที่ควรจะเป็นกันอยู่แล้ว เราไม่ต้องทำอะไร ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลย นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ.
ศรัทธานำมาซึ่งขวัญและกำลังใจ
ความมุ่งมั่นไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวผลักดันชีวิตของเราให้ก้าวไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่มันนำมาซึ่งความศรัทธาของคนที่หมดสิ้นความเชื่อทั้งปวง หากเราเป็นคนหนึ่งในสังคม เราจะต้องการอะไรเป็นสรณะ นั่นก็คือคนที่แข็งแกร่งและมีจุดยืนของความดี กระนั้น การจะไปบอกว่าให้ใครก็ได้มาเป็นผู้นำก็คงมิใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้ เพียงแต่คนที่จะมาเป็นผู้นำได้นั้นเขาเหล่านั้นจำเป็นจะต้องมีสิ่งหนึ่งที่ล้ำค่า นั่นคือความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เมื่อเรามีความตั้งใจมั่นต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเหนียวแน่น เราก็มักจะไม่ซัดส่ายไปกับอารมณ์ที่เข้ามากระทบ หรือปัญหาต่าง ๆ นานา ที่เรากำลังพบเจอ แล้วเราก็จะยืนหยัดต่อสู้ท่ามกลางมรสุมได้.
ปัญหาของผู้คน ก็คือปัญหาของตัวเราเอง จุดเริ่มต้นของปัญหามันคือสิ่งที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน นั่นก็คือความอยากหรือความต้องการของตัวเราเอง ยิ่งเรามีความต้องการมากเท่าไร เราก็จะทะยานอยากที่จะได้สิ่งนั้นมา โลกเราใบนี้จึงวุ่นวายเพราะ มนุษย์ส่วนใหญ่หารู้ไม่ว่า ยิ่งตามหายิ่งไม่พบและยิ่งหยุดนิ่งยิ่งพบเจอ ชีวิตกำลังมาบอกกับเราว่า เราไม่จำเป็นต้องขวนขวายอะไรมาใส่ตัวมาก เพียงแค่ทำอย่างต่อเนื่อง ทำไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดก็พอแล้ว กำหนดทิศทางในสิ่งที่เราต้องการที่จะไป แล้วก็เดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็จะอยู่ตรงที่เราตัดสินใจทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ได้อยู่ที่ใคร และไม่ได้อยู่ที่โลก การโทษโลกหรือธรรมชาติไม่ได้ช่วยให้เราใกล้เป้าหมายที่เราวางเอาไว้แต่น้อย.
ทิศทางสำคัญกว่าความเร็วเสมอ
นักเดินเรือจำเป็นจะต้องคำนวณความเร็วลม คำนวณทิศทาง และคำนวณจุดหมาย หากแต่เพียงสิ่งที่สำคัญที่สุดหาใช่ความเร็วลมหรือว่าจุดหมายที่เรากำลังไป แต่การกำหนดทิศทางนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการเดินเรือ ถ้าเรามัวแต่นั่งจับจ้องอยู่กับบางสิ่งที่ไม่ใช่ เราก็จะไม่สามารถเรียนรู้อะไรได้เลย เพราะถึงแม้ว่าเราจะรู้เป้าหมาย แต่เราไม่รู้กลยุทธ์ที่จะนำพาเราไปยังเป้าหมายนั้น ๆ ก็เท่ากับเราไม่สามารถบรรลุผลที่เราตั้งใจเอาไว้ได้เลย กระนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องรู้ทิศทางว่าสิ่งที่เรากำลังไปนั้น มันทำให้เราพบเจออะไรได้บ้าง การสังเกตการณ์สิ่งแวดล้อมรอบข้างก็สำคัญไม่แพ้ไปกับการกำหนดทิศทาง เพราะมันจะทำให้เราตระหนักรู้ได้เลยว่าเราพบเจออะไรระหว่างทางนั้นบ้าง.
เข็มทิศมีเอาไว้เพื่อรู้ว่าเรากำลังไปยังที่หมายใด แน่นอนว่ามันสำคัญมาก ๆ ในการที่เราจะใช้มันในจุดที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า ณ จุดที่เรายืนอยู่นี้เรากำลังยืนอยู่ตรงที่ใด การเดินต่อไปท่ามกลางอุปสรรคขวากหนาม ก็จำเป็นจะต้องใช้พลังใจอย่างมหาศาล และก็มีผู้คนมากมายยอมแพ้ต่อโชคชะตาเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น วันนี้จึงเป็นวันที่เราทุกคนควรจะตระหนักรู้ว่า ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งเราได้เท่ากับความคิดของตัวเราเอง อย่าให้อะไรมาทำให้เราหยุดนิ่ง หรือว่ายอมศิโรราบกับสิ่งที่เรายังไม่เคยเผชิญหน้า ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากสักเพียงใด แต่เราก็จะยืนหยัดต่อสู้ท่ามกลางเมฆหมอก และควันที่กำลังบ่ายหน้ามายังที่ตัวเราอย่างแน่นอน.
ทุกอย่างหยุดนิ่งถ้าขาดความมุ่งมั่น
กฎของเวลาจำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไป ถึงแม้เราไม่ก้าวขาที่จะเดินไป เวลานั้นก็ไม่ยอมแพ้ที่จะหมดสิ้นไปในทุก ๆ วินาที เราคือสิ่งมีชีวิต เราจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อที่จะมีชีวิตรอด การปรับตัวคือหนึ่งในนั้น ความมุ่งมั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเวลาที่เรากำลังเดินไป การขาดไฟฝันในการมุ่งมั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราปล่อยเวลาทั้งหมดทิ้งไป เพียงแค่ลองทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ใส่ความมุ่งมั่นเป็นส่วนประกอบหลัก เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่เกินคาดอย่างมหัศจรรย์ คำว่าลองดูเป็นเพียงคำสั้น ๆ แต่ได้ใจความ ส่วนความผิดพลาด และล้มเหลวมันเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ รวมไปถึงความสำเร็จก็เช่นกัน แต่วันนี้เราได้ลองใช้ชีวิต มันก็ไม่ได้แย่ที่เราจะลองดูไม่ใช่เหรอ.
พลังใจเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องสร้างมันขึ้นมา เราไม่ใช่คนเดียวบนโลกใบนี้ที่ถูกธรรมชาติยื่นบททดสอบมาให้เรา เพราะเราทุกคนก็ล้วนแต่ได้รับบททดสอบที่ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทุกคนก็ล้วนแต่ต้องพบเจอทั้งความทุกข์และความสุข คละเคล้ากันไปในทุกเมื่อเชื่อวัน สิ่งที่เราพบเจอมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดอีกต่อไป แล้วอะไรล่ะคือคำถามที่สำคัญยิ่ง ในการที่เราจะพัฒนาไปสู่จุดหมายที่สำคัญกว่า นั่นก็คือความมุ่งมั่นในจุดที่เรามั่นใจว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สอบทานอย่างดีแล้ว ให้ลองที่จะเดินหน้าต่อไป ถ้าปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ค่อย ๆ แก้ไขกันไปในทีละจุด เราก็จะได้เป็นคนที่ขึ้นชื่อว่า เป็นคนมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งเราได้.