#6 ความสนใจที่ดี

ความสนใจที่ดี

บางทีชีวิตของคนหนึ่งคนก็แตกต่างกันไป แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ‘ความสนใจที่ดีจริง ๆ มันคืออะไร’

การเริ่มที่จะรู้จักตัวเองก่อน

ในสิ่งที่นับวันจะหลากหลายมากขึ้น มันก็จะทำให้คุณสับสนได้ว่า คุณชอบอะไรกันแน่ ความสนใจที่จะทำให้คุณโฟกัสไปที่มัน แล้วคุณก็กำหนดทิศทางเดินของคุณเองแล้วนั้น คุณจำเป็นจะต้อง ‘รู้จักตัวเอง’ ก่อน.

การรู้จักตัวเองคือการที่เห็นตัวเองมาเป็นอีกคน คุณสามารถคุย ถาม-ตอบ ในสิ่งที่คุณสงสัยได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีคำตอบเสมอหรอก เว้นเสียว่าคุณให้เวลากับตัวเองมากพอไหม ที่จะให้ความรู้ ค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลอันสำคัญแล้วมาย่อยคำตอบให้ตกผลึกว่า ‘โอเค เราได้คำตอบจากสิ่งที่เราสงสัยแล้ว’ ก็เริ่มที่จะค่อย ๆ คลายความสงสัย จึงกลายมาเป็น ‘การเข้าใจตัวเอง’ มากขึ้นตามลำดับไป ลำดับขั้นต่อไปที่คุณจะต้องเรียนรู้อีกก็คือ ‘การเลือกในสิ่งที่ชอบ’ คุณจะต้องค้นหาสิ่งที่ชอบในระยะเวลาที่สั้นที่สุด มันขึ้นอยู่กับการกำหนดเป้าหมายว่า คุณสนใจอะไรมากน้อยแค่ไหน ลองทำมันดู อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป.

ค้นหา passion ในตัวคุณ

ทว่า ทุกคนไม่ได้มีความหลงใหล (passion) กันทุกคน บางคนก็ทำตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย บางคนก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะชอบอะไรเลยสักอย่างเดียว ยิ่งหาก็ยิ่งไม่เจอ หรือบางคนก็บอกว่าการที่เห็นคนอื่นมีความสุข นั่นคือความหลงใหลจริง ๆ แต่ในความเป็นจริง ถ้าเราเอาปัจจัยความหลงใหลไปผูกติดกับคนอื่น หรือสิ่งภายนอกมากเกินไปก็จะขาดความมั่นคงได้ เช่น ถ้าคุณอยากที่จะให้คุณพ่อ คุณแม่มีความสุขในบั้นปลายแล้วคุณกำหนดสิ่งนี้เป็นความหลงใหล คุณจะไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ เพราะว่าปัจจัยที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขไม่ได้มาจากความประสบความสำเร็จในชีวิตคุณอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักมาจากการเข้าใจตัวลูกเองมากกว่า ว่าลูกก็ต้องมีทางเดินของลูก ความสำเร็จ และชื่อเสียง มิอาจนำมาซึ่งสิ่งที่มั่นคงทางความสุขได้เลย ซึ่งก็ไม่สามารถนำมาเป็นความหลงใหลที่ดีได้.

คุณจะต้องค้นหาสิ่งนั้นผ่านตัวคุณเองโดยการศึกษาให้เยอะ วิเคราะห์แยกแยะสิ่งต่าง ๆ ออกมาให้ละเอียดที่สุดมากเท่าที่จะทำได้ เพื่อเห็นกระบวนการของผลลัพธ์ที่แท้จริง.

รู้วิธีใช้งานเข็มทิศของชีวิต

หยิบเข็มทิศของชีวิตคุณขึ้นมาใช้ตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ในตัวของคุณจะมีสิ่งนำทางที่เรียกว่า ‘เข็มทิศ’ มันมีหน้าที่คอยช่วยเหลือ เวลาที่คุณไม่รู้จะเดินไปทางไหน หรือเวลาที่คุณไม่สามารถบอกได้ว่า ‘ตอนนี้ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเดินมาถูกทางแล้ว’ คำถามเกี่ยวข้องกับตัวคุณไม่จำเป็นต้องถามคนอื่น คุณเท่านั้นที่จะรู้คำตอบนั้น จงเดินตามเข็มทิศของตัวเองเถอะมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วล่ะ คุณจะไม่สามารถเอาเข็มทิศนี้ไปเทียบกับเข็มทิศของคนอื่นได้ เพราะคนเราทางเดินไม่เหมือนกัน คุณอาจจะเพิ่งเริ่มเดิน คุณอาจจะหลง หรือคุณอาจจะเดินผิดเส้นทางที่ตั้งใจว่าจะไป ซึ่งไม่สามารถไปเทียบเคียงกับใครได้นอกจากตัวของคุณเอง.

การดูเข็มทิศเป็นคุณจะต้องรู้ว่า ‘ทางไหนที่ดีและทางไหนที่ไม่ดี’ เหตุการณ์ที่ออกแบบมาให้คุณเจอ จะแปรผันตามเส้นทางเดินของแต่ละคน ถ้าคุณเลือกทางเดินชีวิตไปในทางที่ไม่ดี เข็มทิศก็จะจัดการให้คุณเดินไปในทางที่ไม่ดี แต่ถ้าคุณเลือกทางเดินชีวิตไปในทางที่ดี เข็มทิศก็จะจัดการให้คุณเดินไปในทางที่ดีเช่นเดียวกัน มันอยู่ที่จุดยืนที่คุณเลือกเดิน.

สร้างจุดยืนอันมั่นคง

ถ้าเข็มทิศเปรียบเหมือน ‘เส้นทางเดิน’ สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ ‘เป้าหมายที่ต้องการจะไป’ การที่คุณจะไปไหนสักที่ คุณก็จำเป็นจะต้องรู้จุดหมายปลายทางว่าไปที่ไหน ด้วยวิธีอะไรที่จะพาคุณไปถึงจุดหมายนั้น คุณจะใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไม่ได้เด็ดขาด เพราะคุณจะขาดอารมณ์ที่มีชีวิตชีวาไป รวมถึงความสมดุลของสภาวะร่างกายก็จะขาดแรงขับเคลื่อนที่ดีไปด้วย เมื่อร่างกาย และจิตใจคุณไม่สามารถผนวกได้กับความคิดอันแรงกล้าได้แล้ว ก็นำมาซึ่งการเหี่ยวเฉาอย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำคือสร้างจุดยืนในชีวิตให้ได้ ว่าคุณยืนในจุดไหน และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ‘คุณจะต้องไม่เปลี่ยนจุดยืนนี้เป็นอันขาด’ ในเมื่อเลือกเป้าหมายแล้ว.

การเปลี่ยนเป้าหมายจำเป็นจะต้องเริ่มเดินใหม่เสมอ เพราะการเดินทางแต่ละเส้นจะต้องเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้นเสมอ ไม่มีทางลัดในเส้นทางเดินชีวิต และไม่มีชีวิตอมตะในชีวิตจริง ถ้าผิดคือผิด ถ้าถูกคือถูก เลือกความสนใจให้เร็วที่สุดมากที่จะทำได้ อย่างน้อยคุณก็จะไม่เสียใจว่าทำไมปล่อยเวลาให้ล่วงเลยอย่างเปล่าประโยชน์.