ถ้าความจริงมันเจ็บปวดล่ะ เราจะยอมรับความจริงนั้นได้จริง ๆ เหรอ
ความจริงไม่เคยทำร้ายใคร
ทำไมคนส่วนมากใช้เวลาอยู่กับความทรงจำมากกว่าความจริงกันนะ ถ้าคุณถามตัวเองว่าความจริงมันคืออะไร คำตอบมันคงมีเพียงแค่สิ่งเดียวคือตอนนี้ แต่ถ้าคุณไม่ยอมที่จะเข้าใจว่าความจริงเป็นสิ่งที่ทำให้คุณดื่มด่ำกับขณะนี้จริง ๆ มันก็คงเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไปวันแล้ววันเล่าเท่านั้นเอง ให้คุณลองทบทวนว่าความจริงกับจินตนาการ อะไรที่จะสามารถทำให้คุณมีความสุขในปัจจุบันได้มากที่สุด เช่น การที่คุณวาดฝันอาชีพของตัวเองในอนาคตว่าจะต้องเป็นเบอร์หนึ่งของโลก แต่กับการที่คุณกำลังทำอาชีพที่คุณหวังไว้แล้วเริ่มทำในตอนนี้เลย ถึงแม้ว่ามันอาจจะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ที่อย่างน้อยเราก็ได้ทำสิ่งที่เราต้องการที่เราจะทำในทันที ไม่จำเป็นต้องฝันอีกต่อไป เพราะว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็ต้องเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วความพยายามจะเป็นตัวนำไปสู่ความฝันเองไม่ใช่การจินตนาการ.
อดีตคือตัวกำหนดปัจจุบัน
มีวลีที่อยากให้ขบคิดกันคือ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เจอได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนความคิดต่อสิ่งที่เจอได้ จากวลีข้างต้นนี้ทำให้คิดออกได้ว่า การที่เราก่นด่าโชคชะตาไม่ใช่สิ่งที่เราควรทำ แต่สิ่งที่เราควรทำคือเข้าใจว่าอดีตไม่ใช่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามอำนาจความคิดเรา เพราะความจริงแล้วอดีตคือสิ่งที่เราเคยกระทำไว้ทั้งสิ้น และส่งผลให้เราพบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิตทั้งดี และไม่ดี คลุกเคล้ากันไปไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น เลยเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่จึงเกิดคำถามมากมายว่า เพราะอะไรชีวิตฉันถึงไม่มีความสุข หรือว่าทำไมฉันต้องเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ ทว่า ความจริงแล้วทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมให้ความเสมอภาคกับคุณตลอดเวลา ตั้งแต่คุณลืมตาดูโลกใบนี้จนกระทั่งคุณจากโลกใบนี้ไป ความจริงก็ยังคงให้ความยุติธรรมกับคุณเสมอ.
ปัจจุบันคือตัวกำหนดอนาคต
อีกหนึ่งวลีที่อยากให้ขบคิดกันอีกคือ คุณไม่สามารถวาดฝันอนาคตด้วยความคิดได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนอนาคตด้วยการลงมือทำได้ การใช้เพียงความคิดนั้นไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ เพราะความคิดนั้นไม่ใช่พลังงานโดยสมบูรณ์ การที่คุณทำสิ่งนั้นลงไปจริง ๆ นั่นคือสิ่งที่จะเป็นตัววาดอนาคตที่แท้จริง และแน่นอนว่าการกระทำในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถออกแบบได้ดังใจตามที่เรามุ่งหวังไว้ เช่น มีคนมาด่าว่าคุณ (เกิดจากอดีต) แต่ถ้าคุณยังคงตอบโต้ด้วยการโกรธ (ปัจจุบัน) อนาคตก็ยังคงต้องพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ต่อไปอยู่ดี ซึ่งไม่ใช่ทางแก้ไขอนาคตที่ถูกต้อง แต่ลองเปลี่ยนเป็นการ เข้าใจ และให้อภัย (ปัจจุบัน) ก็จะทำให้อนาคตนั้นถูกเปลี่ยนแปลง และบิดเบือนไปตามอำนาจของการกระทำนั้น สิ่งที่อธิบายมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ในตอนนี้.
ความจริงมีเพียงแค่หนึ่งเดียว
จากคำพูดของโคนันยอดนักสืบ การ์ตูนในวัยเด็กมาเป็นคำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อคุณต้องการที่จะค้นหาความจริง จงระลึกไว้เสมอว่าความจริงนั้นไม่มีสอง แต่ความจริงมีเพียงแค่หนึ่งเดียว ถ้าคุณมีความคิดที่แตกต่างจงค้นหาต่อไปจนกระทั่งความจริงนั้น ตรงกันกับที่ศึกษา และไขว่คว้ามา เพราะความเชื่อนั้นมีมากมาย เพียงแต่ว่าคุณจะหยิบเอาความเชื่อไหนมาใช้ บางสิ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่อาจจะต้องพิสูจน์สิ่ง ๆ นั้นนานนับสิบปี เคล็ดลับที่ไม่ (ลับ) คือการพิสูจน์ความจริงได้ก็ต้องใช้ความจริงเข้าสู้ ที่สำคัญคุณจำเป็นจะต้องมีสติในปัจจุบัน ไม่หลงไปในอดีต หรืออนาคตเป็นอันขาด เพราะคุณจะไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่า อันไหนความคิดปรุงแต่ง หรืออันไหนความจริง และที่สำคัญการยอมรับความจริงอาจจะเจ็บปวดชั่วคราว แต่การไม่ยอมรับความจริงอาจจะเจ็บปวดไปตลอดกาล.