#79 ความใจแข็ง

ความใจแข็ง

โลกเราใบนี้มีอะไรให้เรานั้นค้นหาอีกมากมาย มันไม่ใช่เพียงแค่เราเกิดมาจากท้องแม่แล้วก็จบตรงนั้นเลย มันจะต้องมีวันที่เราออกเดินทางไกล วันที่เราจำเป็นจะต้องแข็งใจเสียสละบางสิ่ง เพื่อบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นจึงเป็นบททดสอบที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ไม่เคยมีความใจแข็งในตนเองเลย สิ่งนี้ก็จะมาทำให้เป็นโจทย์ที่ยาก แก้ไขได้ไม่ง่ายดาย รวมไปถึงจำเป็นจะต้องฝึกฝนจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงตามไป.

ใจแข็งคือใจที่พร้อมที่จะต่อสู้

เมื่อคนหนึ่งเจอปัญหา คนนั้นจะมีทีท่าอย่างไรกับปัญหาเหล่านั้น นี่คือโจทย์ที่ไม่ว่ายุคไหน สมัยใดก็ย่อมต้องแก้ไขกันในรูปแบบเดียวกันว่า เรามีใจพร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหารึเปล่า เรายอมให้ปัญหามันกัดกินชีวิตจนมากเกินไปไหม หรือว่าเรามีใจที่แข็งแกร่งพร้อมสู้กับทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามายังชีวิตของเราเอง มันคือท่าทีของความสำเร็จและชัยชนะที่มิอาจจะมีสิ่งใดมาขวางกั้นเราได้เลย บางครั้งเราก็ต้องน้อมนำคุณสมบัติที่ล้ำค่านี้มาปลูกในจิตใจตนเองบ้าง ไม่ว่ามันจะยากสักแค่ไหนเราก็ย่อมต้องมีศรัทธาอันแรงกล้าว่า มันจะต้องผ่านไปได้ในสักวันหนึ่ง ไม่เป็นไรที่เราจะเจอปัญหาอะไร ไม่กลัวต่อปัญหาใด แต่เราจงกลัวว่าที่เราไม่กล้าที่จะสู้กับปัญหาจะดีกว่า.

ขนาดของปัญหาจะเล็กจะใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับใจของเราว่ามีพละกำลังแค่ไหน ไม่ใช่จะไปมองว่าปัญหาทุกเรื่องใหญ่เกินตัวเราไปหมด มุมมองบางทีอาจจะสำคัญกว่าตัวปัญหาด้วยซ้ำไป ถ้ามองผิดปัญหาที่คิดว่าเล็กก็อาจจะกลายเป็นใหญ่โตกว่าเดิม ส่วนปัญหาที่ใหญ่โตอยู่แล้ว ก็ไม่เคยทำให้มันเล็กลงด้วยใจอันกล้าแกร่งของเรา แต่กลับกลายเป็นทำให้มันใหญ่เกินตัวไปมาก คราวนี้ก็สายเกินไปที่จะแก้ไขทัน เมื่อปัญหามันไม่ถูกแก้ไข มันจะรอเวลาให้เราไปแก้ไขมันอย่างถูกวิธี จงระลึกไว้อยู่เสมอว่า ปัญหาทุกปัญหาต้องได้รับการแก้ไขอย่างละเท่า ๆ กัน ไม่มีปัญหาใดเลยที่จางหายเองไปตามธรรมชาติ เพราะขึ้นชื่อว่าปัญหานั่นก็คือต้องใช้ปัญญา.

คลื่นของปัญหาไม่เคยหมดไปเลย

จุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดีก็คือ ค่อย ๆ แก้ไขปัญหากันไป ไม่ต้องรีบร้อน ร้อนรนในการแก้ไขปัญหาให้หมดสิ้น ถ้าปัญหาเปรียบเสมือนการล้างจานในทุกวัน ไม่มีวันใดที่เราจะไม่มีจานให้ล้าง เว้นเสียว่าเราไม่ใช้จาน แล้วก็เปรียบเสมือนการทำความสะอาดห้องนอน บ้านช่องที่เราอยู่อาศัย รวมไปถึงรถยนต์ที่เราขับด้วย แม้ว่าใจเราอาจจะต่อต้านการดูแลรักษามัน แต่วันหนึ่งเราก็ต้องตระหนักว่า ไม่มีอะไรเลยที่เราไม่ต้องดูแลรักษา ถ้าใจเราไม่แข็งพอที่จะสู้กับปัญหาที่มันผ่านเข้ามาทุกวันเหมือนคลื่นในทะเล เราก็จะไม่มีวันที่จะมีความสุข เนื่องจากทุกวันที่เราใช้ชีวิตเราเอาแต่นั่งภาวนาว่าจะต้องให้ชีวิตไม่มีปัญหา ให้มันมีแต่ความสุขเข้ามาตลอด.

ถ้าเราลองปรับการตั้งคำถามว่า วันนี้เราจะมีความสุขไหม กลับกันเป็น วันนี้เราจะจัดการปัญหาได้มากแค่ไหน ชีวิตมวลรวมของเราในอีกสิบปีข้างหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเรารู้ว่าชีวิตที่ดีย่อมเกิดจากชีวิตที่แก้ปัญหาได้มาก ไม่ใช่ชีวิตที่มีแต่ความสุขอันเอ่อล้นในทุกเมื่อเชื่อวัน ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่ตัวปัญหาเอง แต่กลับกลายเป็นการเหนื่อยล้าต่อการต่อสู้กับปัญหานั่นแหละ ที่จะมาซ้ำเติมความทุกข์ในใจที่กลัวปัญหาอยู่ร่ำไป ขอให้พลังจงสถิตอยู่กับท่าน ไม่จำเป็นต้องไปกลัวปัญหาเพราะตัวปัญหาเองมันก็กลัวเราเหมือนกัน มันจะกลัวคนที่ใจแข็ง กัดไม่ปล่อย และต่อสู้ยิบตาไม่มีวันใดที่จะยอมแพ้ได้เลย นั่นแหละคือชัยชนะของปัญหา.

กลัวได้แต่ต้องไม่ล่าถอยไกลเกินไป

บางครั้งเราก็ต้องถอยเพื่อตั้งหลัก มิใช่เอาแต่สู้อย่างเดียวจนเราเสียชีวิต การเสียชีวิตไม่ใช่เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ตลอดเวลา แต่การเลี่ยงการเสียชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญมากของการต่อสู้ หากปัญหาในวันนี้มันยิ่งใหญ่เกินตัว เราก็อาจจะต้องมาตั้งหลักเสียก่อน ล่าถอยมาเพื่อเตรียมตัวจัดการปัญหานั้น ๆ ฝึกปรือจิตใจให้มันเข้มแข็งกว่านี้ ขนาดของปัญหามันเท่านี้ ส่วนขนาดของใจก็ย่อมต้องเท่านั้น หากว่าวันนี้เราเริ่มต้นได้เร็ว ผลลัพธ์ของการแก้ไขปัญหาย่อมงอกงามขึ้นตามไป อย่าลืมปัญหาที่สำคัญที่สุดของชีวิตก็คือ ถอยได้แต่ไม่ล่าถอยไกลเกินไป แล้วก็กลัวได้แต่ต้องมีใจที่สู้หลังจากกลัวนั้นด้วย ประคับประคองจิตใจให้มันได้ที่พักพิงอย่างสุดความสามารถ ใจกับกายของเราเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้.

รู้ให้ชัดแจ้งว่า ชีวิตที่ดีถูกสร้างขึ้นมาได้ เมื่อเราถูกปัญหาถาโถมให้เรียนรู้ที่จะรวบรวมสติแล้วตั้งมั่น หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ กำหนดจิตรับรู้ว่าเราจะสู้มันด้วยวิถีทางใด ปัญหามาในรูปแบบที่แตกต่าง การรับมือก็ย่อมต้องแปรผันไปตามบริบทของปัญหานั้นด้วยเสมอ ไม่แก้ปัญหาแบบเถรตรงหรือ ตรง ๆ ไปที่ปัญหาอย่างเดียว แต่เราต้องรู้จักพลิกแพลงกลยุทธ์ที่จะรับมือกับปัญหาตลอดเวลา ด้วยปัญญาที่สั่งสมมาด้วย รวมไปถึงอย่าประมาทในการใช้ชีวิตและไปดูแคลนปัญหาว่ามันเล็กเกินไปที่เราต้องไปแก้ไข เพราะมันสามารถขยายใหญ่ได้ หากว่าเราไม่รู้จักยับยั้งปัญหาให้มันอยู่กับที่ที่มันควรจะอยู่ ทักษะเหล่านี้ต้องฝึกฝนอย่างยิ่งยวดแล้วมันย่อมต้องใช้เวลา.

เวลาเป็นส่วนที่จะทำให้ปัญหาคลี่คลายได้บ้าง

การปล่อยให้ปัญหาคลี่คลายไปเองก็ย่อมสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบแคบว่า เราต้องแก้ไขปัญหานั้นไปแล้วบ้างไม่มากก็น้อย มิใช่ว่าเอาคำว่าเวลาจะทำให้ปัญหาคลี่คลายไปเองจนลืมว่า เราไม่ต้องทำอะไรกับปัญหาเหล่านั้นเลย ใจที่ฝึกปรือจนแข็งแกร่งนั้นก็ย่อมต้องใช้เวลาฉันใด ปัญหาที่จะได้รับการแก้ไขก็ต้องใช้สติปัญญาฉันนั้น เหมือนการที่เราเดินทางไปจุดในจุดหนึ่งเราก็ต้องมีเป้าหมายชัดเจน การแก้ปัญหาด้วยใจที่แข็งแกร่งก็ต้องมีหมุดหมายที่ชัดเจนเฉกเช่นเดียวกันด้วย ไม่พยายามไปแก้ผิดจุด หรือว่าไปแก้ที่ปลายเหตุจนลืมว่า ใจแข็งไม่ใช่ใจที่กระด้าง ทื่อ หรือไม่ควรค่าแก่การงาน แต่เป็นใจที่พร้อมสู้ พร้อมปรับตัว และล่าถอยได้บ้างเมื่อถึงเวลาจวนตัว.

แล้วชีวิตของเราก็จะสามารถได้รับชัยชนะกลับบ้านอย่างแน่นอน เมื่อเราทำเหตุที่ถูกต้อง เราก็จะย่อมได้รับผลที่ถูกต้องตามไป ไม่เอาความผิดพลาด ล้มเหลว หรือปมปัญหามายำรวมกันกับความใจแข็งเป็นอันขาด สิ่งเหล่านั้นเป็นหนามที่จะคอยทิ่มแทงจิตใจเราระหว่างที่เราเดินทางไป ไม่ต้องกังวลว่าปลายทางที่เราเลือกเดินจะเป็นอย่างไร ก่อนเดินทางให้ครุ่นคิด ทบทวน สอบทานให้ได้มากที่สุด ถ้าตอนนี้เราเลือกเดินมาแล้วก็ให้เดินต่อไป เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงจุดเปลี่ยน มันจะมีทางแยกมาให้เราเลือกเดินใหม่เสมอ จงเชื่อมั่นและศรัทธาในชีวิต และฝึกฝนจิตใจอยู่เนือง ๆ ว่าใจนี้ถ้าไม่ฝึก เราก็คงจะฝึกตนอะไรไม่ได้เลย.