การทำร้าย

การทำร้าย

จุดเริ่มต้นของการทำร้าย ก็เนื่องด้วยมาจากจิตใจที่บอบช้ำมาจากการที่เราเคยถูกทำร้ายมาจากอดีตกาล เมื่อชีวิตในปัจจุบันนี้สะท้อนถึงสิ่งที่เรียกว่าการกระทำ เราจึงต้องเน้นย้ำกันอีกสักหน่อยแล้วว่า สิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่มันสะท้อนถึงปมในวัยเด็กมากน้อยเพียงใด เพราะมีผู้คนมากมายกำลังก่นด่า และทำร้ายซึ่งกันและกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยขาดการตระหนักรู้สิ่งที่สำคัญที่สุดไปนั่นก็คือ เรากำลังทำร้ายตัวเองกันอยู่รึเปล่า.

หากต้องการสิ่งใดจงเริ่มกระทำสิ่งนั้น นี่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของชีวิตเราสืบไป ทว่า ชีวิตเราคือค่าเฉลี่ยของสิ่งที่เราคิด พูด และทำ การเพิกเฉยจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราอาจจะไม่สามารถห้ามให้ใครไม่ทำร้ายกันได้ เพียงแต่การจะแปรเปลี่ยนค่าพลังทำร้าย ให้เป็นค่าพลังชีวิตได้นั้น เราจำเป็นจะต้องมีการเล่นแร่แปรธาตุกันสักหน่อย แล้วการรับรู้นี้จะส่งผลต่อผลลัพธ์สืบไป.

จุดชี้วัดของการทำร้ายกันก็น่าจะเป็นความรู้สึกสะใจ ที่ได้เห็นว่าสิ่งที่เรากระทำลงไป มันมีความหมายต่ออีกคน ๆ หนึ่ง แน่นอนว่าการด่า ย่อมมีความสาสมใจมากกว่าคำชม เพราะบางทีคำชมมันก็ไม่ได้อะไรกลับมา อย่างมากอีกฝ่ายก็แค่ยิ้มและตอบว่าขอบคุณ กลับกันคำด่าทอ น่าจะมีความต่อเนื่องมากกว่ากันเยอะ บางทีเราอาจจะถึงขั้นลงมือลงไม้กันด้วยซ้ำไป ถ้าหากมองดูกันให้ดี ๆ เราก็แค่ต้องการความยอมรับจากคนตรงหน้าเราก็เท่านั้นเอง.

เมื่อไม่มีการตอบโต้ ก็ไม่มีความต่อเนื่องของอารมณ์ เมื่อไรก็ตามที่เรากำลังก่นด่าต้นไม้ นั่นหมายความว่าเรากำลังกลายเป็นคนบ้า แน่นอนว่าการก่นด่าต้นไม้ คงเป็นแค่การระบายอารมณ์ แต่ก็น้อยคนนักที่จะมีคนทำแบบนั้น ส่วนใหญ่แล้วเราจะระบายอารมณ์กับสิ่งมีชีวิตเสียมากกว่า บางคนลงกับสัตว์ บางคนลงกับคน ก็ล้วนแต่แตกต่างกันไปในแต่ละปัจเจกบุคคล.

ความผิดจึงไม่ได้ตกอยู่ที่ผู้กระทำ หรือผู้ถูกกระทำเพียงอย่างเดียว เพียงแต่ถ้าเรามองด้วยมุมที่เปิดกว้างว่า จะทำอย่างไรให้ทั้งผู้ที่กระทำ และผู้ที่ถูกกระทำเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสวมรองเท้าเดียวกันกับอีกฝ่ายหนึ่ง หรือว่าการลองสวมแว่นตาเดียวกันดูบ้าง เพื่อจะเป็นการเรียนรู้จักตัวเองมากกว่าว่า ทุกคนก็ล้วนแต่รักสุขเกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น.

จุดเริ่มต้นของการทำร้าย ก็น่าจะมาจากการที่เราต้องการความยอมรับจากอีกฝ่าย

ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ