มีวลีที่ว่าไว้ การทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นทั้งหมดของการกระทำของชีวิต หากว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างถูกต้องเราก็จะไม่ได้รับรู้ถึงผลลัพธ์ที่มันถูกต้อง แต่ปัญหาใหญ่ที่เราจะต้องรับรู้ก็คือ แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่มันเป็นการทำในสิ่งที่ควร เมื่อชีวิตเหวี่ยงโจทย์มาให้เราทำไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน แถมมิหนำซ้ำเราจะแยกระหว่างความรู้สึกสุขทุกข์ตอนนี้เลย มันจะเป็นไปได้ไหมการลวงของธรรมชาติมันจะหลีกเลี่ยงให้ถูกวิธีได้อย่างไร.
รู้หลักก่อนอันดับแรกว่า หลักที่เรากำลังยึดถือนี้มันส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างไรบ้าง เช่น เรารู้สึกเชื่อว่าความสุขของชีวิตเป็นสิ่งที่คู่ควรสำหรับเรา ส่วนความทุกข์ในชีวิตไม่คู่ควรกับเราอีกเลย และก็การที่เราจะร่ำรวยได้ เราก็แค่นั่งรอเฉย ๆ ไม่ต้องขวนขวายทำสิ่งใดเลย แค่นั่งรอ นอนรอ กลิ้งเล่นรอก็ได้ ซึ่งการยกตัวอย่างข้างต้นก็แสดงให้เห็นว่าคนเราคิดต่างกัน บ้างก็ดี บ้างก็ไม่ดี มันจึงเป็นผลลัพธ์ว่าถูกต้องให้ดูที่เหตุของการกระทำ.
ชีวิตเป็นสิ่งลวงเรา เราไม่มีทางรู้ว่าว่าเราจะได้ผลลัพธ์อะไร ก่อนที่เราจะสร้างเหตุนั้นขึ้นมา สังเกตให้ดี ๆ ว่าชีวิตไม่ได้เป็นสิ่งที่จะคาดคะเนได้ทั้งหมด แต่มันก็พอที่จะสังเกตได้ว่าเราจะต้องเลือกอะไรบ้างที่จะใส่มาในเชื้อเพลิงที่เรียกว่าความคิดของเราเอง ชีวิตมันคือการสังเกตหลอมรวมกับประสบการณ์เข้าด้วยกันอย่างแนบสนิท เพื่อให้ตระหนักว่าอะไรคือคำตอบของชีวิต.
การเพิกเฉยต่อสิ่งที่ถูกต้องบ่อย ๆ ทำให้สมองนั้นสร้างชุดความรู้ใหม่ที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้อีก ความคิดส่งต่อไปยัง การกระทำ แล้วการกระทำก็ส่งต่อไปยังความเชื่อต่อไป พอมันตกผลึกเป็นความเชื่อของชีวิตแล้วไซร้ ปัญหาต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็อยู่ที่วิถีทางที่เราเลือกเดินตั้งแต่แรกนั่นแล.
จงใช้ชีวิตอย่างสิ่งที่ควรจะเป็น ทำในสิ่งที่ถูกต้อง สอบทานตัวเองอยู่เนือง ๆ วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ถ้าเราเชื่อมั่นว่าวันนี้เป็นวันใหม่ของเรา ส่วนวันพรุ่งนี้จะไม่แตกต่างจากวันนี้ถ้าหากว่าเราไม่สร้างวันนี้ให้ดีที่สุดจริง ๆ รับรู้สถานการณ์แวดล้อมให้ได้มากที่สุดว่า ชีวิตของเราในตอนนี้เป็นอย่างไร มันมีอะไรเป็นสิ่งที่สุกงอมไปแล้วบ้าง สังเกตจากตรงนั้นแล้วค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ ปรุงการกระทำของตัวเองไปเรื่อย ๆ อยู่เนือง ๆ แล้วชีวิตหลังจากนี้จะได้มีความสุขอันแท้จริง.
จัดการความคิดว่าความดี ความถูกต้อง และสิ่งที่ควรทำตรงกันไหม ถ้าไม่ ให้ลองปรับใหม่อีกที
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ