ใครบ้างในโลกนี้ไม่ตามหาความสุข หรือใครบ้างในโลกนี้มองเห็นว่าความสุขไม่น่าติดข้อง ก็คงมีน้อยมากในโลกนี้ แต่ทว่า มีบางคนที่เขาเห็นประโยชน์ในการเลิกตามหาความสุข แต่มาเป็นการตามรู้ความสุขแทน ซึ่งไม่คล้ายกันเท่าไรนัก และก็จะทำให้เจอความสุขที่แท้จริงด้วย ‘ทำความดี เห็นความจริง เข้าถึงความสุข’ บทความจาก ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล ที่ยอมรับความจริงตรงหน้าแล้วยิ้มรับมัน.
เมื่อความสุขย่างกรายเข้ามาหา ย่อมเกิดปีติโสมนัสอย่างยิ่ง กลับกันถ้าเกิดความทุกข์ย่างกรายเข้ามาหา ย่อมเกิดทุกขเวทนาโทมนัสอย่างยิ่ง แต่ในเมื่อมีความจริงอีกอย่างหนึ่งคือ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป โดยย่อเรียกว่าทุกข์” พอเรารู้ชัดอย่างนี้แล้วย่อมเกิดความสลดสังเวชว่า “สุขก็ตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงสุดท้ายแล้วก็ย่อมเป็นทุกข์สินะ”.
จิตใจที่ตระหนักรู้แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มเย็นลง ค่อย ๆ เย็น และค่อย ๆ ปล่อยวางอย่างแท้จริงได้ในที่สุด เมื่อความเป็นจริง กับความคิดย่อมขัดแย้งกัน จึงเกิดการมั่วขึ้นมาทันที แล้วไอความมั่วนี่แหละทำให้เรายังคงเกิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะไปหลงมั่วคิดไปว่า “โลกนี้มีความสุขให้แสวงหาอยู่”.
มีใครบ้างที่อ่านบทความนี้แล้วคิดว่า โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ประกอบกันขึ้นมา และมีทุกข์เป็นตัวแปรหลัก ก็คงยากพอสมควร อย่างน้อยๆเลยก็ย่อมมองว่าโลกนี้มีสุขให้หาบ้างแหละ มีเงิน กินอิ่ม นอนหลับนี่ไงสุขแล้ว ไหนจะมีแฟนสวย แฟนหล่อนี่ไงก็สุขแล้ว พวกนี้ถือว่ายังคงได้รับความทุกข์ในบั้นปลายอย่างแน่นอน ก็เพราะจิตใจยังไม่เห็นทุกข์จริง ๆ ที่แม้กระทั่งความสุขมันก็คือทุกข์ที่แฝงตัวเข้ามาเท่านั้นเอง.
ถ้าสมมุติว่า ความสุขมีตลอดไปในโลกนี้ก็คงดีโดยที่ ไม่จำเป็นต้องตามหา ไม่จำเป็นต้องรอคอย ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่นั่งเฉย ๆ ก็สุขแล้ว แบบนี้ก็คงจะไม่มีการมาเขียนบทความอย่างแน่นอน ก็เพราะไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย ทุกคนก็จะนั่งแล้วสุขอยู่อย่างนั้น ถ้าโดยความจริงก็คงดี แต่ในเมื่อความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น เราทุกคนที่เกิดมาย่อมต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นชีวิตที่จะมีความสุข จะกลายเป็นชีวิตที่มีแต่ความสุก สุกกาย และสุกใจด้วย ไม่ใช่สุขกาย สุขใจอย่างที่มันควรจะเป็น.
จิตใจจะเต็มเปี่ยมและอิ่มเอิบสำหรับคนที่หยุดตามหามัน
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ