หากเรารู้ชัดแล้วว่า ในความเป็นจริงทุกคนก็คือคนบ้า เราทุกคนล้วนเป็นคนบ้าในแบบของตนเอง ไม่ว่าจะบ้าดี บ้าสวย บ้าหล่อ หรือว่าบ้าเงิน ก็ตามแต่ ชีวิตมาบอกกับเราว่า ให้เราเรียนรู้ความบ้านี้ให้ดี ๆ อย่าเพิกเฉยเป็นอันขาด เพราะความบ้านั้นมีหลายระดับ ซึ่งระดับแรก ๆ ก็มักจะมองไม่ค่อยเห็นกันสักเท่าไร ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะตกผลึกกลายมาเป็นคนบ้าที่อยู่ตามโรงพยาบาล ซึ่งนั่นก็จะเรียกว่าบ้าจริง.
เท้าความถึงความบ้ากันสักหน่อย เนื่องจากมีคนรู้จักอาการบ้านี้น้อยมาก เพราะว่ามันแทบจะดูไม่ออกกันเลย อาการแรก ๆ ของความบ้า คือการควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เสมือนว่าทุกครั้งที่โกรธก็ต้องเลยตามเลย ยับยั้งชั่งใจไม่เป็น แล้วคราใดที่มีความรักใคร่ก็หลงหัวปักหัวปำ ไม่ยอมมีสติดูเสียทีว่าคนที่เรากำลังหลงรักนั้น เป็นคนดีพอที่เราควรจะฝากหัวใจไว้ทั้งหมดได้หรือไม่.
ชีวิตไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่ายมาตั้งแต่แรก แต่เราก็ชอบใช้ชีวิตกันแบบง่าย ๆ ในหลาย ๆ คนถ้าหากไปถามกันตอนนี้เลยว่า “บ้าไม่บ้า” ร้อยทั้งร้อยก็มักจะตอบว่า “ไม่ได้บ้า” ถึงแม้ว่าเราจะไปถามคนที่บ้าจริง ๆ ก็ตามแต่ เราก็มักจะได้คำตอบว่า “เราไม่ได้บ้าจริง ๆ นะ” ทว่า คำว่าบ้า มันเป็นคำที่ไม่มีใครอยากจะเป็น แต่ทำไมคนเราถึงบ้ากันมากนักล่ะ เรามักจะบ้าในสิ่งที่เรามองไม่เห็นตัวเอง มันเหมือนกับว่าตัวเองกำลังหลอกตัวเอง แล้วความคิดก็สั่งงานไปที่ความจริงว่า สรุปเราไม่ได้บ้า เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้บ้า.
ถ้าหากเราสามารถเปลี่ยนความจริงด้วยความคิดได้ล่ะก็ ทุกคนคงเป็นคนปกติกันหมดแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทุนเดิมทุกคนเป็นคนบ้า แต่จะบ้ามากบ้าน้อยอีกเรื่อง การจะไม่บ้ามีหนทางเดียวคือ การฝึกสติและการมีสัมปชัญญะจะเป็นการรู้ตัวทั่วพร้อมว่า ณ ตอนนี้เราอยู่ที่ใด แล้วเรามีอะไรอยู่กับตัวบ้างตอนนี้ การนึกถึงอดีต หรือรำพึงรำพันถึงอนาคต นั่นก็ยังเรียกว่าขาดสติอยู่ แปลโดยย่อว่า ความบ้าคือการขาดสติ.
ทั้งนี้ ในการเรียนรู้จักตัวเองว่าบ้า ก็คือการเริ่มหันกลับมามองตัวเองอย่างแท้จริงแล้วว่า เราบ้าอะไรบ้าง เมื่อมีคนถามว่าเราบ้าไหม ให้ตอบไปว่าเราบ้า เช่น เราบ้าความสุข อยากมีความสุขทุกวัน หรือบ้าอย่างอื่น เป็นต้น แบบนี้จึงจะเรียกว่าเราเริ่มมองเห็นความจริงแล้ว คนเราจะไม่บ้าก็ต่อเมื่อเรารู้ชัดว่าเราบ้าอะไรบ้าง แล้วเราจะลดวิธีบ้าเหล่านั้นได้อย่างไร มิใช่ไปป่าวประกาศว่าเราไม่บ้า แต่ทั้งที่จริงสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ก็เรียกว่าบ้าอยู่มิใช่หรือ.
ความบ้าเหมือนกับน้ำขุ่น ที่ยังต้องรอเวลาให้น้ำนิ่งก่อนจึงจะมองเห็น หากเราขาดสติเราจะไม่รู้ว่าเราบ้า แต่เมื่อเรามีสติเราจะรู้ทันทีว่าเรานั้นบ้ามากน้อยเพียงใด
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ