หากว่าชีวิตไม่สามารถประคับประคองไปได้ เราจึงเรียกมันว่ามรสุมชีวิต แล้วนี่จึงเป็นที่มาของคำว่า เราไม่สามารถควบคุมสิ่งภายนอกได้ แต่เราสามารถควบคุมสิ่งภายในได้ ซึ่งทั้งศึกนอกและศึกใน ทั้งสองศึกนี้ย่อมแตกต่างกัน แต่ก็มีสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่เราพบเจอมันก็ย่อมผ่านพ้นไปเหมือนดังทรายที่ไหลรินลงไปทุกวัน.
มรสุมที่ใหญ่ที่สุดอาจจะเป็นการรับมือต่อปัญหา แล้วหลัก ๆ การรับมือของปัญหาก็น่าจะเป็นเรื่อง เราไม่รู้ว่าปัญหาใดที่เป็นปัญหาที่แท้จริง ความสามารถที่เป็นทักษะของการรับมือก็น่าจะมาจากประสบการณ์ในอดีต ผนวกรวมกับการตีความของตัวเราเองต่อปัญหานั้น ๆ ด้วย.
ธรรมชาติจะมาหลอมรวมให้ตัวเราเองเก่งขึ้นหรือแย่ลง มันก็จะขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งหมด บางคนก็หลงคิดไปว่าสิ่งภายนอกเป็นตัวกำหนดท่าทีของการรับมือ แต่กระนั้นมันอยู่ที่ตัวเราเสียมากกว่า ลองฝึกปรือตนเองผ่านห้วงเวลาที่เราสามารถพิจารณาได้ แล้วมันก็ย่อมเป็นสิ่งที่สลักสำคัญต่อเราและผู้คนมากมายอย่างแน่นอน ถ้าเราไม่มีประสบการณ์ก็ต้องปรึกษาหาผู้รู้ แล้วก็อย่าลืมเด็ดขาด หาที่มั่นเอาไว้ยึดเกาะ อย่างเช่น ความถูกต้องหรือธรรมะก็ได้.
ความทุกข์ของชีวิตอาจจะเป็นแง่งามหนึ่งของประสบการณ์ เหมือนว่าเราจำเป็นจะต้องบ่มเพาะตัวเองผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่จะเข้าใจให้ได้ว่าโลกใบนี้ให้ผลยุติธรรมสำหรับเราเสมอมา ทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏขึ้นมายังความรู้สึกหรือจิตใจ เราก็ย่อมต้องได้อะไรกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผ่านมรสุมของชีวิตไปให้ได้ ไม่มีอะไรนอกจากสติ และความศรัทธาแล้วเราต้องใช้หลังจากนี้ไป.
ปักหลัก ยืนหยัด ต่อสู้ แล้วเราจะได้รับชัยชนะกลับมาสู่ชีวิต ไม่มีวิธีการที่ถูกต้องเพียงแค่หนึ่งเดียว แต่ความจริงนั้นมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น น้อมรับความเป็นจริงให้ได้ว่า บางครั้งชีวิตอาจจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนดังใจหวัง แต่อย่างน้อยมันมอบอัญมณีที่ล้ำค่านั่นเรียกว่าปัญญาในการรับมือกับอุปสรรคของชีวิตนั่นเอง.
มรสุมของชีวิตจะทำอะไรเราไม่ได้ มาจากชีวิตที่ใช้สติปัญญาในการรับมือกับสิ่งต่าง ๆ อย่างทันท่วงที
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ