มีใครไหมที่รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ไม่สำคัญเอาซะเลย ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็รู้สึกว่าความรู้สึกเมื่อวาน เมื่อสัปดาห์ก่อน หรือเมื่อเดือนก่อนสำคัญกว่าวันนี้ นั่นคืออาการของคนที่กำลังขาดการเชื่อมต่อกับปัจจุบัน แล้วสิ่งที่ตามมาคือคุณจะขาดความสุขในชีวิตในระยะยาว แถมยังไม่สามารถเห็นประโยชน์ในการอยู่กับปัจจุบันด้วย บ้างก็ยึดติดในอดีต บ้างก็ยึดติดในอนาคต แล้วอะไรคือสิ่งที่เราควรมองที่สุด ก็ความรู้สึกในวันนี้ไงล่ะ.
สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราย่อมมาดึงรั้ง ไม่ให้เราดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวเราได้ ก็เพราะเราไม่สามารถเห็นประโยชน์ในการใช้เวลาตอนนี้ ก็ในเมื่อความสำคัญคือการเจอเหตุการณ์ที่สำคัญ เช่น รับปริญญา เข้าทำงานวันแรก หรือว่าแฟนขอคบในวันวาเลนไทน์ เหตุการณ์เหล่านี้แหละที่เป็นตัวจุดชนวนที่ดีมากให้เราจดจำมัน.
ไม่มีวันที่จะลืมเลือนไป แต่กลับกลายเป็นว่า เราก็ยึดติดในเหตุการณ์หนึ่งเหมือนกัน เช่น ในวันที่เพื่อนค่อย ๆ ออกห่างไป แฟนกำลังบอกเลิกเรา ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หรือว่าในวันที่เจ้านายบอกว่า คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอต่อการที่จะได้ทำงานที่นี่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อันสำคัญอะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ดึงให้คุณออกจากปัจจุบันขณะที่ล้ำค่า จนไม่สามารถเห็นประโยชน์ได้ว่า ความรู้สึกในวันนี้ของเราเป็นอย่างไรบ้าง.
เมื่อสิ่งต่าง ๆ ที่ดีและไม่ดีล้วนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแล้ว “ทำไมยังถึงห่วงหาอาทรอยู่ร่ำไป ไม่เคยคิดจะอยู่กับวันนี้จริง ๆ เลยเหรอ” ถ้าคำว่าวันนี้มันมีชีวิตอยู่ มันคงน้อยใจแย่เลย ที่เราไม่เคยสนใจมันแม้สักวันเดียว มัวแต่บ่นทุกวันว่า “ทำไมฉันถึงต้องเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ด้วยนะ” หรือว่า “ฉันมันตัวซวยไม่มีอะไรดี ๆ เข้ามาในชีวิตเลย” ตัดภาพมาที่ ‘วันนี้’ ที่รอคอยเราวันแล้ววันเล่าจนเราตายจากโลกนี้ไป หลงลืมคำว่าวันนี้ และก็เพิกเฉยมันจนมันไม่มีค่าอะไรเลย.
สมมุติว่าเราแย่จริง ๆ เราไม่มีค่าจริง ๆ แล้ว ‘วันนี้’ ล่ะ มันไม่เห็นมีวันไหนไม่รอเราเลย ไม่เห็นมีวันไหนที่มันจะทิ้งเราไปเลย มีแต่เราที่เป็นคนทิ้ง ‘วันนี้’ แล้วก็เอาแต่บ่นทุกวันว่า “ชีวิตไม่มีอะไรดี” ในเมื่อทั้งชีวิตเราเพิกเฉยสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด และก็ใช่แหละที่เราจะไม่เห็นว่าเรามีค่าอะไร สุดท้ายชีวิตเราก็จะไม่มีอะไรดีอย่างที่เราคิดไว้ก็เพราะเราไม่สนใจความรู้สึกของวันนี้ยังไงล่ะ.
วันนี้คือวันที่สำคัญที่สุด มองเห็นคุณค่าของวันนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ