คำนี้คงไม่มีใครชอบใช่ไหมล่ะ อุปสรรคก็คงหมายถึงปัญหาที่เข้ามา หรือเวลาทำสิ่งใดอยู่ก็มักจะมีอะไรมาขวางเสมอ การแก้ปัญหาโดยการบ่นไม่ช่วยอะไรแถมยังเสียแรงเปล่าอีก ถ้าเจออุปสรรค แล้วอยากจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังก็จำเป็นจะต้องเข้าใจว่า “อุปสรรคเป็นเพียงสิ่งที่พบเจอไม่ใช่บทสรุปของเรื่องราวในชีวิต แต่ถ้ายอมแพ้อุปสรรคนั่นแหละ คือบทสรุปในชีวิตแล้ว” เจอปัญหาก็ต้องหาทางออกนี่คือคนฉลาด เจอปัญหาแล้วรู้ว่าปัญหานั้นมีทางออกหรือไม่นี่คือคนมีปัญญา.
ทว่า มุมมองที่มีต่อคำนี้สำคัญมาก ที่จะสามารถเปลี่ยนอุปสรรคมาเป็นพลังชีวิตได้มากน้อยแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับทัศนคติล้วน ๆ ไม่มีอะไรมาผสมเลย ตัวอย่างเช่น ถ้าเดินไปเจอก้อนหินขวางตรงทางเดิน จะยกก้อนหินนั้นออก หรือว่าจะเปลี่ยนเส้นทางเดิน จริง ๆ แล้วคนส่วนมากจะเปลี่ยนทางเดิน มันง่ายกว่ากันเยอะมาก เพราะการยกก้อนหินนั้นเสียทั้งแรงและเวลา คงมีน้อยคนที่จะคิดแบบนี้ แต่ถ้ามองว่าการยกก้อนหินนั้นคือความสำเร็จล่ะ แน่นอนว่าทุกคนคงอยากจะยกมันขึ้นมาทันที เพราะว่ามันมีรางวัลรออยู่จริงไหม และในชีวิตจริงก็เป็นแบบที่เล่ามา.
คือชีวิตย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา มันอยู่ที่ว่าจะเลือกมองก้อนหินเป็นอะไร ถ้ามองก้อนหินเป็นเพียงแค่ก้อนหินก็จะเพิกเฉย และเดินหนีมันไป แต่ถ้ามองก้อนหินมันคือความสำเร็จก็แค่คว้ามันเท่านั้นเอง เพราะมันคือสิ่งที่จะนำพาไปยังดินแดนมหัศจรรย์ ที่ไม่มีใครพาไปได้เลยนอกจากตัวเอง แล้วนับแต่นี้คงจะไม่เพิกเฉยกับมันอีกต่อไปสินะ จงเปลี่ยนอุปสรรคทั้งหลายกลั่นออกมาให้เป็นพลังเถอะ เพราะความสำเร็จย่อมเผชิญกับอุปสรรคนานาประการจริง ๆ ชีวิตก็จะเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา.
คำนี้ก็เป็นอีกคำหนึ่งที่เจออยู่บ่อยครั้งมาก “อุปสรรคจะต้องหนีอย่าไปสู้ สู้ยังไงก็แพ้อยู่ดี” คำพูดเหล่านี้ทำให้ติดอยู่ในบ่วงมาร แถมยังไม่สามารถยืนหยัดสู้ได้อีกด้วย จนกว่าที่จะมองเห็นว่าอุปสรรคไม่มี ความสำเร็จไม่เกิด ถึงจะเข้าถึงแก่นธรรมว่า “ชีวิตที่ไม่ออกจากพื้นที่สบาย ก็จะไม่มีวันค้นพบความสุขที่แท้จริงได้”.
หลายครั้งที่ปัญหา อุปสรรค ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อไป แต่ความรู้สึกก็คงเดิม การแก้ไขปัญหานั้นก็ย่อมคล้ายกัน ความกลัวที่เข้ามาหา ย่อมส่งข้อความที่ไม่สามารถเข้าใจได้โดยง่าย แต่มันคือเคล็ดลับนำไปสู่ทางพ้นอุปสรรคอย่างแท้จริง.
คนฉลาดหาทางออก คนมีปัญญารู้ว่ามีทางออกหรือไม่
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ