แม้ว่าการตื่นขึ้นมาลืมตาดูโลกในแต่ละวัน ก็มิอาจจะกำหนดได้เลยว่าวันนี้เราจะพบเจอปัญหาในรูปแบบใด การวิงวอนขอให้ปัญหานั้นหมดไป เป็นเรื่องไร้สาระอย่างยิ่ง แต่ก็มีผู้คนมากมายหลงผิดคิดไปว่า เราจะทำอย่างไรให้ไม่มีปัญหาในชีวิต แม้กระทั่งการไปบนบานศาลกล่าว ขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เว้นแต่ละวัน แต่แล้วปัญหาในชีวิตของเราก็หาได้หมดไปไม่.
ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาคือสิ่งที่เข้ามาเพื่อทดสอบบางอย่างในชีวิต อย่างเช่น ทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ หรือทดสอบว่าเรายังคงรักตัวเองกันอยู่รึเปล่า หากเราไม่สามารถยืนหยัดต่อสู่ท่ามกลางปัญหาเหล่านี้ได้ เราก็คงจะต้องพ่ายแพ้ไปในสังเวียนที่เรียกว่าโลกใบนี้ก็ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบสิ้น การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่ปรากฏเห็นเด่นชัดขึ้น ชีวิตเราก็อาจจะตกหลุมพลางของธรรมชาติ ที่มันพยายามอย่างยิ่งยวดในการขจัดเราออกไปจากสังเวียนแห่งนี้.
การต่อสู้กับปัญหาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง อย่าเพิกเฉยต่อปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น รวมไปถึงการคิดหนีปัญหาก็จึงมิใช่ทางออกอย่างเด็ดขาด กระนั้น ชีวิตคือการยอมรับความจริงอยู่ข้อหนึ่งว่า เราไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกเสียจากศิโรราบกับปัญหา แล้วหาทางเอาชนะมันให้ได้ผ่านสติปัญญาที่เราสั่งสมกันมา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จากอดีตที่เราเคยผ่านพ้นปัญหาไปได้ ก็ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบอันมีค่าเพื่อที่จะเป็นอาวุธไว้ต่อสู้กับปัญหาต่อไปยังอนาคต.
กลยุทธ์ และกลวิธีในการเอาชนะปัญหานั้น ก็จึงเป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละปัจเจกชน แต่กระนั้นเราก็จะมีวิธีที่ตายตัวกันอยู่บ้าง อย่างเช่น การมองไปที่ปัญหา และหาเหตุของปัญหานั้น ๆ ว่ามาจากที่ใด มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร รวมไปถึงตัวเราเองเป็นสาเหตุให้ปัญหานั้นลุกลามไปไกลหรือไม่อย่างไร แม้ว่าการตั้งคำถามต่อปัญหาอาจจะดูไม่สลักสำคัญ แต่สิ่งนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของโชคชะตาเราเลยก็ได้เหมือนกัน.
อย่ายอมแพ้ต่อปัญหา เพราะปัญหาไม่เคยทำให้ใครตายจากมันไปได้ ปัญหามันเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้เราปวดหัว ตัวร้อนก็เท่านั้นเอง ยิ้มรับกับสิ่งที่เราพบเจอ แน่นอนว่าไม่มีใครมีความสุขกับปัญหาของชีวิต แต่เราสามารถที่จะต้อนรับมันด้วยจิตใจที่เต็มอิ่มได้ไม่ใช่เหรอ เปิดจักระภายในร่างกายออกมาให้หมด สัมผัสถึงพลังภายในใจที่เรานั้นสถิตอยู่มาเนิ่นนาน สิ่งนั้นจะคอยช่วยเราให้ผ่านพ้นวิกฤตของชีวิตไปได้เสมอ.
เราจะไม่สามารถเป็นมนุษย์ที่พัฒนาได้ หากชีวิตเรานั้นไม่เคยพบเจอปัญหาเลย
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ