เมื่อมาตรวัดของสังคมเป็นแค่หนึ่งตัวชี้วัดของคุณภาพชีวิตและจิตใจ กระนั้น เราไม่สามารถชี้ชัดได้โดยส่วนเดียวว่า โลกใบนี้มีแค่สิ่ง ๆ เดียวประกอบกันขึ้นมาเป็นปัจเจกชน เราจึงต้องค้นหาคำตอบว่า สิ่งที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเป็นหรือสังคมนั้นหล่อหลอมเรากันแน่ เสมือนว่าให้อยู่ในสังคมแบบเข้าใจสังคม มิใช่เป็นการเพ่งโทษหรือจับผิดสังคมว่า เพราะสังคมเป็นสาเหตุให้เราเป็นแบบนี้.
โลกใบนี้ย่อมปรากฏเด่นชัดท่ามกลางอุปสรรคต่าง ๆ นานา รวมไปถึงมันจะเป็นภาพที่มองเห็นได้ก็ต่อเมื่อ เราเป็นผู้รู้และผู้เห็นเท่านั้น การจะเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง อย่างเช่น ครอบครัว หมู่คณะ หรือเพื่อน ก็ย่อมมิใช่ฐานะที่พึงจะทำได้เลย ก็ในเมื่อเรานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง บ้างก็มีโลกส่วนตัวสูง บ้างก็ชอบแบ่งปันความคิดเห็นร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่กำหนดสังคมขึ้นมา.
สังคมระดับย่อมที่สุดก็ย่อมเป็นครอบครัว เราจะได้ข้อมูลหรือความรู้ก็เนื่องด้วยจากการที่คนหนึ่งคนในครอบครัว เริ่มสนทนากันอย่างแท้จริงว่า เราแต่ละคนเป็นคนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นวิธีรับมือเมื่ออีกคนแสดงออกแบบนั้น หรือว่าการรับรู้เรื่องราวของการกระทำหนึ่งอย่าง เราประเมินค่ามันด้วยเหตุผลใดกันแน่ สิ่งต่าง ๆ ในชีวิต การมีพ่อแม่หรือสังคมเป็นเบ้าหลอมย่อมส่งผลต่อวิถีชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้จริง ๆ ไหม เราทุกคนต้องร่วมกันหาคำตอบด้วยตัวของทุกคนเอง.
สังคมระดับใหญ่ที่สุดก็ย่อมเป็นสิ่งแวดล้อมที่เราเข้าไปคลุกคลีตีโมงด้วย ไม่ว่าจะเป็นผองเพื่อน ญาติมิตร รวมไปถึงคู่รัก ทั้งหมดที่เล่ามานี้ย่อมระบุได้โดยส่วนเดียวว่า เราจะมีนิสัยใกล้กับบุคคลห้าคนที่เราใกล้ชิดมากที่สุด ต่อมาเราก็จะมีค่าเฉลี่ยชีวิตตามแบบฉบับของคนที่เราสนิทสนมด้วย และใช้เวลาร่วมด้วยสูงที่สุดอยู่ดี แม้ว่าประโยคดังกล่าวมันเป็นเพียงแค่ความเชื่อ ทว่า เราก็จะต้องพิสูจน์กันทั้งชีวิต ที่ว่าด้วยเรื่องเราจะมีชีวิตอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำมวลรวมเสมอมา.
เรากำลังใช้งานสังคมและอยู่บนสังคม ซึ่งมันก็มีทั้งคนที่ดีบ้างแย่บ้าง รวมไปถึงคนที่เข้าใจกันบ้างไม่เข้าใจกันบ้าง สิ่งนี้จึงเรียกว่าการอยู่ร่วมกัน ประเทศก็เหมือนบ้านหลังใหญ่ โลกก็เหมือนหลาย ๆ บ้านรวมกัน หากมองให้ไกลกว่านั้นก็คงเป็นจักรวาลก็คือวัตถุที่มีสิ่งต่าง ๆ อาศัยอยู่ และก็ย่อมอาศัยซึ่งกันและกัน อย่าลืมว่าเราคือส่วนหนึ่งของโลกและส่วนหนึ่งของสังคมเสมอมา.
สังคมเป็นภาพมวลรวมของปัจเจกชน แล้วปัจเจกชนหลาย ๆ คน ย่อมสร้างกระแสใหม่ ๆ ได้เสมอ
ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ