ของขวัญอันลํ้าค่า

ของขวัญอันล้ำค่า

ไม่มีของขวัญชิ้นใดจะล้ำค่าไปกว่าตัวเราเอง และก็แน่นอนว่า หากเราไม่เห็นค่าในตัวเองแล้ว ทุกอย่างในโลกใบนี้ก็ย่อมไม่เห็นค่าในตัวของคุณเลย คำถามที่ควรตั้งคือ แล้วหนทางใดจะเป็นการเริ่มต้นเห็นคุณค่าในตนเองอย่างแท้จริงล่ะ เรื่องราวตั้งมากมายที่เข้ามาในชีวิตของเราล้วนมาบอกสอนว่า เราควรจะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ไม่ควรเพิกเฉยสิ่งใด และมิใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สำคัญ แต่ทุกสรรพสิ่งแวดล้อมนั้นล้ำค่าเหมือนกันไปหมด ยิ่งเรามองเห็นความจริงได้เร็วมากเท่าไร ก็จะยิ่งเห็นของขวัญอันล้ำค่ามากเท่านั้น.

เมื่อตอนยังเด็ก ทุกคนคงเคยพบกับความรู้สึกดีใจที่ได้รับของขวัญ ยิ่งโตไปเรื่อย ๆ กลับพบว่า ของขวัญเหล่านั้นที่เคยทำให้เรามีความสุข มันกลับลดลงไปในตอนนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะเราโตขึ้น ความคิดก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป มุมมองต่อโลกก็ย่อมเปลี่ยนไปตาม สมัยก่อนชอบสีเขียว โตมาอาจจะชอบสีฟ้า หรือว่าตอนเด็กชอบของเล่น โตมาชอบที่จะบริหารธุรกิจ ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่มันคือสิ่งที่ชี้ชัดว่า คนเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา.

การจะบอกว่าของขวัญอันล้ำค่าคือสิ่งใดจริง ๆ นั้นจึงเป็นสิ่งที่ระบุได้ยากยิ่ง ทว่า มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ใครทุกคนรับก็ย่อมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือของขวัญอันล้ำค่า ก็คือโอกาส เวลา ความสุข ความดี และความจริงใจ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถประเมินเป็นราคาได้ว่า โอกาสมีค่าเท่าไร เวลามีค่าเท่าไร ความสุขมีค่าเท่าไร ความดีมีค่าเท่าไร และความจริงใจมีค่าเท่าไร แต่ทุกคนย่อมเห็นสิ่งที่เป็นนามธรรมนี้เป็นของขวัญอันล้ำค่าก็ต่อเมื่อ เราได้ใช้ชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์มาในอดีต และยิ่งถ้าเราใช้ชีวิตเนิ่นนานมากเท่าไร เราก็จะยิ่งรู้สึกเสียดายสิ่งนามธรรมเหล่านี้มากเท่านั้น.

ก็เพราะเหตุผลเพียงข้อเดียวคือ เรารู้ช้าไป การรู้ช้าเกิดจากความประมาท ที่ไปมองสิ่งนอกตัวมากกว่าที่จะมองเข้ามาภายในตัวเอง คาดหวังในสิ่งที่มันไม่รู้จะเป็นไปได้หรือเปล่า และในทางกลับกันชีวิตในปัจจุบันก็จางหายไปตามกาลเวลา สูญสิ้นกันจนไม่หลงเหลืออะไรให้จดจำอีก การจะบอกว่าของขวัญอันล้ำค่านั้นทุกคนมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นค่ามันเลย.

จนกระทั่งมีดวงตาเห็นธรรมย้อนกลับมามองที่ตัวเอง และก็จะเข้าใจว่า สิ่งที่เรามุ่งหวังนั้นมีแต่ของนอกตัวเราทั้งหมด แต่สิ่งภายในตัวของเรานั้นมีทุกสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง การตระหนักรู้อย่างนี้ด้วยตอนอายุยังน้อย ย่อมมีประโยชน์อย่างมาก มันทำให้อย่างน้อยชีวิตเราก็จะไม่ดำเนินไปตามอำนาจสังคม ครอบครัว หรือแม้กระทั่งกิเลสในตัวของเราเอง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็คือคำที่เป็นของขวัญอย่างแท้จริง.

ของขวัญอันล้ำค่าหาได้อยู่ที่อื่นไม่ แต่กลับอยู่ภายในจิตใจเสมอมา

ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ