ภัยคุกคาม

ภัยคุกคาม

ภัยคุกคามคืออะไร สำหรับบางคนอาจจะหมายถึงอุบัติเหตุ หรือว่าเจอผู้ร้ายมาทำร้ายเราใช่ไหมล่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีความหมายที่ค่อนข้างลึกซึ้งกว่านั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามมันไป และทำให้เกิดผลเสียมหาศาลมาก นั่นคือความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ เช่น ความทุกข์ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราเลย หรือขอให้ความสุขอยู่กับเรานานกว่านี้ได้ไหม สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นตัวทำให้เราไม่สามารถยืนหยัดอยู่บนความเป็นจริงได้นาน เปรียบเสมือนกับหลงอยู่ในภวังค์ของความคิด.

ความติดในสุข และความติดในทุกข์ ก็เป็นสิ่งที่อันตรายพอกัน แต่ความติดในสุขนั้นน่ากลัวกว่าความติดในทุกข์เป็นไฉน เพราะความสุขนั้นได้ผ่านเข้ามาเพียงแค่อึดใจเดียว แต่เราก็พร่ำเพ้อถึงมันตลอดเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เกิดขึ้นตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา แต่คุณก็ยังที่จะ ‘ยึดมั่นถือมั่น’ ในความสุขเหล่านั้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง ราวกับว่านี่คือความสุขครั้งสุดท้ายของชีวิตอย่างไรอย่างนั้น.

ให้ลองคิดกลับกันว่า ถ้าการที่ติดความสุขมันทำให้สุขจริง ให้ลองจับเชือกที่มันกำลังหลุดออกจากมือไปเรื่อย ๆ จับมันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยที่สำคัญห้ามปล่อยมือ แต่มีกฎอยู่ข้อเดียวเท่านั้น คือเชือกนี้มันจะไม่มีวันหยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว ผลที่ตามมาคือมือจะเจ็บมากใช่ไหม พอรู้อย่างนี้แล้วเราควรปล่อยมือเพื่อทิ้งเชือก หรือว่าจะยังคงจับมันอยู่ล่ะ ถ้าคำตอบของคุณคือสิ่งที่กำลังคิดอยู่นั่นแหละ.

คือทางเลือกที่ดีที่สุด การ ‘ปล่อยวาง’ จะเป็นหนทางของความสุขที่แท้จริง บางครั้งชีวิตก็มาสอนในรูปแบบของปัญหาอยู่บ่อยครั้ง และมันก็ทำให้ชีวิตอับจนหนทาง ไม่สามารถไปต่อได้อีก การเรียนรู้ธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า ‘ธรรมะ’ ในยุคนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งที่จะทำให้เราเรียนรู้ทางออกของชีวิตได้.

แม้จะพูดกันหนาหูว่า “แกจะไปเครียดอะไรนักหนา ปล่อยวางบ้างเหอะ” แต่ก็ยากที่ใครหลายคนจะทำตามได้ ก็เพราะการจะนำคำว่าปล่อยวางไปใช้ได้จริง ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตกผลึกก่อนเสมอ ถ้าไม่ตกผลึกแล้วล่ะก็ การปล่อยวางนั้นก็จะเป็นการปล่อยวางที่ความคิด ไม่ใช่ที่จิตใจโดยตรง สุดท้ายแล้วภัยคุกคามก็ยังคงคุกคามต่อไป เคล็ดลับที่อยากจะแชร์คือ เรียนรู้ที่จะหาหนทางการปล่อยวางให้ได้ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป.

ภัยคุกคามไม่ใช่สิ่งภายนอก แต่กลับเป็นสิ่งภายในต่างหาก

ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ