การเดิน

การเดิน

ถ้าหากว่าเราวิ่งไม่ได้ การเดินอาจจะเป็นทางออกของปัญหานี้ ชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่คำตอบเดียว แล้วถ้ามีคนถามว่า ถ้าเดินไม่ได้อีกล่ะ จะทำอย่างไร ก็ใช้วิธีคลานเอาก็ได้ คนเรามันต้องปรับตัว ถ้าสิ่งมีชีวิตไม่ปรับตัวก็ต้องมีโอกาสล้มตายในท้ายที่สุดอยู่ดี สังเกตบริบทของชีวิตว่าเราเดินเพราะอะไร แล้วถ้าเดินไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนท่าเป็นท่าไหนต่อไป เพราะโลกนี้ไม่ได้มีหลักการตายตัว.

แล้วเพียงแค่เราเดินในทุกวัน หัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิต รวมไปถึงความเครียดต่าง ๆ ก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าร่างกายจริง ๆ แล้วต้องการให้เดินทางไกล ไม่ได้เหมาะสมกับการนั่ง ๆ นอน ๆ หรือแค่ยืนเฉย ๆ มันจึงเป็นคำตอบว่า มนุษย์จึงจำเป็นจะต้องขยับร่างกายเพื่อให้ร่างกายนั้นได้แลกเปลี่ยนพลังงานอย่างสิ่งที่ควรจะเป็น.

โลกใบนี้อาจจะไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงขนาดนั้น เหมือนกับชีวิตที่เราอาจจะเดินมากกว่านั่งในบางช่วงเวลา แต่บางทีก็นั่งมากกว่าเดินด้วยบางครั้ง มันจึงเป็นสิ่งที่พูดยากว่า เราควรเดินหรือควรทำอย่างไรกันแน่ ซึ่งคำตอบอาจจะขึ้นอยู่กับชีวิตของคุณว่า คุณออกแบบชีวิตเป็นอย่างไร แล้วเราจะสามารถรักษามาตรฐานวินัยในการเดินนี้ได้อย่างไรบ้าง เพราะว่าอายุก็อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่า เราควรจะเดินให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะไม่มีโอกาสได้เดินอีก.

ปัญหาของสุขภาพ อาจจะเป็นเหตุผลหลักให้เราต้องเดิน ไม่ใช่ว่าอยากเดิน เนื่องจากชีวิตมันจะมีสามเลเวลของการเดินทางนั่นก็คือ อยากเดิน ควรเดิน และต้องเดิน แล้วเมื่อไหร่ที่เราต้องเดิน เราจะไม่อยากทำ ค่อย ๆ ฝึกฝนเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องกดดันตัวเองจนเกินไป เราจึงไม่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ควรเดินตอนนี้ต้องเดินเท่าไหร่ หรือควรจะวิ่งเลยไหม โอกาสของร่างกายมันขึ้นอยู่กับบริบทของชีวิตเป็นหลัก.

เกมกีฬาก็คือการทำซ้ำอย่างต่อเนื่องจนเกิดประสบการณ์ แต่การเดินที่ดี อาจจะเกิดจากการเดินซ้ำทุกวัน ตอนเช้า หรือตอนเย็นก็ได้ อย่างน้อยก็อาศัยความรู้สึกที่อยากเดินด้วย วันไหนรู้สึกว่าควรเดินก็อาจจะต้องแบ่งเวลาจากกิจกรรมอื่น เพื่อให้เห็นว่าการเดินเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย อย่าต่อรองกับสุขภาพที่แข็งแรง เพราะวันหนึ่งเราจะไปต่อรองเวลาในการใช้ชีวิตอย่างทรมาน.

สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากการเดิน เป็นการลงทุนที่น้อยที่สุดแต่ได้ผลลัพธ์เยอะที่สุด

ศุภกิตติ์ กิติมหาคุณ