Description
มีคนมาปรึกษาว่า หนูมีเรื่องจะปรึกษา คือว่าครอบครัวมีปัญหากัน มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก พ่อแม่ก็เอามาเป็นปัญหาใหญ่ในครอบครัว แม่ก็ชอบบอกว่าลูก ก็คือพี่สาวของหนูชอบเข้าข้างพ่อ พ่อก็ชอบว่าแม่ ต่างคนต่างแบบว่ากัน แล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่ หนูก็เป็นคนแบกความรู้สึกทั้งหมด หนูกลัวเขาจะคิดมากทั้งคู่ แม่ก็ด่าพี่ว่าเข้าข้างพ่อ แม่ก็เลยเดินหนีออกจากบ้าน ไปหาพี่ชายอีกคน พี่ชายหนูก็มีเรื่องเครียดเหมือนกัน ทำให้ยิ่งเครียดมากขึ้น เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น 2-3 รอบแล้ว แม่ก็ชอบดื่มเบียร์ พ่อก็ชอบใช้อารมณ์ ครั้งที่แล้วหนูก็เดินตามไปบ้านพี่ แม่ชอบเดินออกไปจากบ้าน หนูอยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ ที่ต้องมาคอยห่วงความรู้สึกแต่ละคน แต่คนในบ้านไม่เคยที่จะห่วงความรู้สึกหนู หนูก็เครียดเรื่องเรียนอยู่แล้ว หนูเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว บอกใครไม่ได้ หนูควรที่จะทำยังไงคะ หนูควรปล่อยวาง หรือทำไงดีคะ ตอนนี้หนูก็รู้ว่าควรอดทน หนูพยายามบอกตัวเองค่ะ เพราะถ้าวันนี้ทะเลาะกัน พรุ่งนี้ก็อาจจะดีกัน แล้วอีกวันก็อาจจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิม มันคงอาจจะเป็นเรื่องที่หนูยังไม่เข้าใจพ่อแม่ แต่เดี๋ยวสักพักหนูคงจะเข้าใจเองค่ะ ขอบคุณพี่มาก ๆ นะคะ
– ปัญหาทุกสิ่งต้องแก้ที่เหตุ แล้วเหตุก็อยู่ที่ตัวเราเองกันทุกคน ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ส่วนคนที่ชอบโทษคนอื่นแปลว่าเขาเหล่านั้นกำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
– คนส่วนใหญ่มักจะเพิกเฉยปัญหาไป แล้วก็ทำให้มันแย่ลงด้วยการเปลี่ยนแปลงสิ่งอื่น เพื่อที่จะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง ซึ่งต่อไปปัญหาก็ยังคงสถิตอยู่ที่เดิม
– หากเราไม่เข้าใจเหตุและผล เราอาจจะมองว่าวันนึงทะเลาะกัน วันนึงก็คงจะดีกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราทะเลาะเพื่อปรับความเข้าใจ อันนี้ดี แต่ถ้าทะเลาะเพื่อระบายอารมณ์ อันนี้ไม่ดีแน่นอน
– เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของเราคืออะไร เราต้องการจะป่าวประกาศให้คนในครอบครัวเข้าใจเรารึเปล่า หรือเราต้องการให้ทุกคนมีความสุข เจตนาของเราคือตัวกำหนดความรู้สึกมวลรวมของบ้านได้ดีที่สุด
– สังคมสมัยนี้ขาดการตระหนักรู้ในเรื่องครอบครัวไปมาก เรามีแฟนเพื่ออะไร และเรามีลูกเพื่ออะไร หากเรามีแฟนเพียงเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เราก็คงมีชีวิตที่โดดเดี่ยวในบั้นปลาย เพราะเราก็คงมองลูกแบบเดียวกัน